กินโยเกิร์ตอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ และไม่เสียรสชาติ

เผยแพร่ครั้งแรก 28 มี.ค. 2017 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
กินโยเกิร์ตอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพ และไม่เสียรสชาติ

การรับประทานอะไรสักอย่างเข้า ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะนอกจากเราอยากจะกินจริงๆแล้ว การรับประทานอะไรก็ตามเข้าไปนั้น แน่นอนว่ามันเกี่ยวข้องกับร่างกายของเราโดยตรง ส่งผลกระทบให้กับอวัยวะในหลายๆส่วนทั้งภายในและภายนอกได้

สิ่งสำคัญที่สุด สำหรับการรับประทานให้ได้มาซึ่งประโยชน์ รสชาติดี และส่งผลที่ดีต่อสุขภาพนั้น ต้องคำนึงถึงสัดส่วนและวิธีการปรุงอาหาร รวมทั้งวัตถุดิบในสิ่งที่เราจะรับประทานด้วย ซึ่งในคราวนี้ ขอกล่าวถึงอาหารชนิดหนึ่งที่มีความเชื่อกันว่า ทานแล้วจะลดน้ำหนักได้ และส่งผลต่อระบบการขับถ่ายในร่ายกายอีกด้วย นั่นก็คือ โยเกิร์ต

หากเลือกที่จะลดน้ำหนักด้วยการเน้นรับประทานโยเกิร์ตแบบเติมที่ตลอดทั้งวัน จนเรียกได้ว่ารับประทานแทนข้าวได้ แต่เมื่อลองไปชั่งน้ำหนักพบว่า น้ำหนักไม่พร่องลงไปเลย ตั้งแต่เริ่มกินมา แถมยังขึ้นมากกว่าก่อนรับประทาน อย่าเพิ่งกล่าวโทษตัวโยเกิร์ต ให้ลองพิจารณาว่า คุณได้ทำสิ่งเหล่านี้ เพิ่มเติมไปในโยเกิร์ตหรือไม่

อย่าใส่ผลไม้มากจนเกินไป

โยเกิร์ตที่เพิ่มผลไม้เข้าไปเสริมนั้น แน่นอนว่าส่งเสริมให้โยเกิร์ต ดูน่ารับประทาน รสชาติหลากหลาย และ เสริมคุณประโยชน์เพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากไม่ศึกษาหน่วยแคลอรี่ในผลไม้ที่ใส่ไปว่ามีบริมาณ แคลลอรี่สูงมากน้อยเพียงไร แน่นอนว่าการลดน้ำหนักของคุณไม่มีทางสำเร็จได้แน่นอน แถมยังจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักให้กับตัวเองมากกว่าเดิมอีกด้วย

ควรสังเกตุแคลอรี่ในตัวโยเกิร์ตให้ดี

โยเกิร์ตในปัจจุบันนี้ ถูกผลิตขึ้นมามากมายหลายยี่ห้อ มีการเพิ่มใส่เนื้อผลไม้และรสชาติแปลกใหม่เสริมเข้าไปให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้หากรับประทานอย่างเดียวโกยไม่ได้สนใจกับจำนวนแคลอรี่ที่ติดอยู่ข้างถ้วยแล้วละก็ การควบคุมน้ำหนักจะยิ่งเป็นไปไม่ได้ อย่าลืมนับแคลอรี่ที่รับประทานเข้าไปในแต่ละครั้ง เพื่อเตือมและป้องกันการรับประทานแคลอรี่เกินความต้องการจนกลายเป็นไขมันไปสะสมตามร่างกาย

อย่ารับประทานโยเกิร์ตมากจนเกินไป

แม้ว่าการรับประทาน โยเกิร์ต นั้น จะช่วยลดน้ำหนักได้ แต่กระนั้นการรับประทานจนเกินพอดี ก็ส่งผลให้มีไขมันสะสมจนกลายเป็นอ้วนหนักได้เช่นกัน เพราะโยเกิร์ต เป็นตัวที่มาจากนมและมีน้ำตาลเป็นส่วนผสม ดังนั้นจึงควรทานโยเกิร์ตอย่างพอประมาณ และเลือกทานโยเกิร์ตแท้ไร้น้ำตาลจะดีกว่า

ไม่ควรแช่แข็งโยเกิร์ต

ยิ่งเมืองไทย ที่เป็นเมืองร้อน อากาศแทบจะอบอุ่นตลอดทั้งปี การรับประทานโยเกิร์ตเย็นๆนั้น เป็นอะไรที่เยี่ยมยอดเอาเสียมากๆ นอกจากจะเรียกความสดใสและตื่นตัวให้จากความเย็นและรสชาติของมันแล้ว ยังมีประโยชน์มากมายให้แก่ร่างกาย แต่คุณรู้ไหมว่า เจ้าจุลินทรีย์ตัวสำคัญที่มีในโยเกิร์ตนั้น ก็จะตายไปด้วยความหนาวเย็น โยเกิร์ตจะกลายเป็นเพียงของหวานธรรมดาที่ไม่ได้ช่วยในจุดระบบขับถ่ายอีกต่อไป


3 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Yogurt. Harvard T.H. Chan School of Public Health. (https://www.hsph.harvard.edu/nutritionsource/food-features/yogurt/)
Yogurt: Types, health benefits, and risks. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/295714)
How to Choose The Best Yogurt for Your Health. Healthline. (https://www.healthline.com/nutrition/best-yogurt-for-health)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป