ยาคุมฉุกเฉิน หรือยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน (Emergency contraception pill) เป็นยาสำหรับรับประทานหลังการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อลดโอกาสในการตั้งครรภ์
ยาคุมฉุกเฉินที่มีจำหน่ายในประเทศไทย
ยาคุมฉุกเฉินที่จำหน่ายในประเทศไทยในปัจจุบัน (กุมภาพันธ์ 2561) มี 2 รูปแบบ ดังนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- แบบดั้งเดิมที่มี 2 เม็ด ได้แก่ ยี่ห้อ Postinor (โพสตินอร์) Madonna (มาดอนนา)
- แบบใหม่ที่มีเม็ดเดียว ได้แก่ ยี่ห้อ Maple forte (เมเปิ้ล ฟอร์ท)
ในบางประเทศ ยาคุมฉุกเฉินที่มีเม็ดเดียวจะมี 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดที่มีตัวยา Ulipristal acetate ปริมาณ 30 มิลลิกรัม และชนิดที่มีตัวยา Levonorgestrel ปริมาณ 1.5 มิลลิกรัม
แต่สำหรับในประเทศไทย ยังไม่มียาคุมฉุกเฉินที่มีตัวยา Ulipristal acetate วางจำหน่าย มีเพียงชนิดที่มีตัวยา Levonorgestrel เท่านั้น
วิธีการใช้ยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อเมเปิ้ล ฟอร์ท
1 กล่อง จะมียาอยู่ 1 เม็ด ประกอบด้วยตัวยา Levonorgestrel 1.5 มิลลิกรัม
รับประทาน 1 เม็ดครั้งเดียว ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่ยิ่งรับประทานเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี โดยพบว่า หากรับประทานภายใน 0 – 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ จะมีอัตราการตั้งครรภ์ต่ำกว่าการรับประทานในช่วง 72 – 120 ชั่วโมง
แนะนำให้ใช้เมเปิ้ล ฟอร์ท หรือยาคุมฉุกเฉินยี่ห้ออื่นๆ เฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น
- ถูกข่มขืน
- ถุงยางรั่วซึม หรือฉีกขาด
- ลืมรับประทานยาคุมแบบรายเดือน (ทั้งนี้ระยะเวลาที่ยาคุมจะไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์หากลืมใช้จะขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของตัวยาคุมกำเนิด ดังนั้นแต่ละยี่ห้ออาจมีระยะเวลาที่ต่างกัน)
ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉิน
ไม่ควรนำยาคุมฉุกเฉินมาใช้แทนการคุมกำเนิดตามปกติ เพียงเพราะไม่อยากใช้ถุงยาง หรือไม่อยากรับประทานยาคุมแบบรายเดือน ถึงแม้ว่ายาคุมฉุกเฉินจะใช้ง่ายกว่า แต่ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ก็ต่ำกว่ายาคุมแบบรายเดือน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- ถ้าใช้ยาคุมแบบรายเดือนได้ถูกต้อง จะมีโอกาสตั้งครรภ์ไม่ถึง 1%
- ถ้าใช้ถุงยางอนามัยถูกวิธีและไม่มีปัญหารั่วซึม หรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 2%
- ถ้าใช้ยาคุมฉุกเฉินต่อให้รับประทานทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15%
ผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
การใช้ยาคุมฉุกเฉินอาจพบผลข้างเคียง ได้แก่
ทั้งนี้เคยมีความกังวลว่า การรับประทานแบบครั้งเดียวครบขนาด อาจทำให้ผู้ใช้เกิดอาการดังกล่าวได้มากกว่า แต่มีการศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพและอาการไม่พึงประสงค์ของการใช้ยาคุมฉุกเฉินที่มีตัวยา Levonorgestrel แบบ 1.5 มิลลิกรัมครั้งเดียว และ 0.75 มิลลิกรัม แบบแยกรับประทาน 2 ครั้ง
ผลการศึกษาพบว่า ทั้งประสิทธิภาพและผลข้างเคียงไม่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จึงแนะนำให้ใช้แบบครบขนาดในครั้งเดียว เพื่อลดปัญหาการลืมรับประทานยารอบที่สองนั่นเอง
นอกจากผลข้างเคียงที่กล่าวไปแล้ว การใช้ยาคุมฉุกเฉินยังอาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังใช้ยา และประจำเดือนในรอบนี้ก็อาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อยจากวันที่คาดไว้ได้
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบนี้อาจไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลหากใช้ยาแล้วเกิดหรือไม่เกิดอาการไม่พึงประสงค์ดังกล่าว
การใช้ยาคุมฉุกเฉินควรใช้อย่างถูกวิธีเพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงสุดเท่าที่ตัวยาจะทำได้ หรือหากไม่แน่ใจควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกร ก่อนใช้ยาทุกครั้ง
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android