เมื่อกล่าวถึงการกินยาคุมฉุกเฉิน มีข้อดี คือ สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ในภาวะฉุกเฉิน หรือไม่ได้เตรียมการล่วงหน้ามาก่อน พกพาได้ง่าย ไม่ยุ่งยากเหมือนการกินยาคุมทั่วไป แต่ยาชนิดนี้ก็มีปัญหาให้ชวนกลุ้มใจได้เหมือนกัน ดังต่อไปนี้
7 วิธีการกินยาคุมฉุกเฉิน สำหรับผู้หญิงที่ควรรู้!
1. การกินยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อได้
ยาชนิดนี้มีประโยชน์ในการป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้น ไม่สามารถป้องกันโรคจากเพศสัมพันธ์ได้ หากต้องการป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ด้วย ควรใช้วิธีสวมถุงยางอนามัยจะดีที่สุด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
2. ยาคุมฉุกเฉิน มีผลข้างเคียงค่อนข้างสูง
ยาคุมฉุกเฉินจะมีผลข้างเคียงสูงมาก เพราะเป็นฮอร์โมนระหว่าง Estrogen และ Progestogen ซึ่งทำหน้าที่ออกฤทธิ์ต่อสภาพแวดล้อมของเยื่อบุโพรงมดลูก จึงมีผลต่อฮอร์โมนและอาจเกิดความผิดปกติต่อผู้รับประทาน เช่น ประจำเดือนผิดปกติ มีเลือดออกกระปิดกระปรอย มีอาการคลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดท้องส่วนล่าง และหากกินบ่อยๆ อาจจะเสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูกได้
3. ต้องกินทันที หลังร่วมเพศไม่เกิน 72 ชั่วโมง
ยาคุมกำเนิดแบบนี้ ความจริงไม่ใช่ยา แต่เป็นฮอร์โมนเพศหญิง ได้แก่ ฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนอย่างเดียว และฮอร์โมนรวมซึ่งใส่ไว้ในปริมาณสูงกว่าที่ใส่ในยาคุมทั่วไปถึง 2 เท่า ทำให้ต้องกินหลังมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 72 ชั่วโมง หากพ้นจากนี้ไปแล้ว ยาคุมฉุกเฉินจะให้ผลในการป้องกันการตั้งครรภ์ลดลงได้
4. ควรกินยานี้ในยามฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้น
ควรกินคุมฉุกเฉินเมื่อจำเป็นจริงๆ เท่านั้น เพราะปริมาณของตัวยาอาจไปกระตุ้นเซลล์มะเร็ง หรืออาจทำให้ไปกระทบต่อรังไข่และมดลูกได้ ตัวยามีฮอร์โมนขนาดสูงอาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้มาก
5. ประสิทธิภาพต่ำ
ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉิน จะไม่สูงเท่ายาคุมแบบอื่น กล่าวคือ จะสามารถป้องกันได้พียง 58-95 เปอร์เซ็นต์ จึงอาจเกิดความผิดพลาดได้สูง ทางที่ดีควรกินภายใน 24 ชั่วโมง
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
6. ต้องกินตามเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
ยาคุมฉุกเฉิน 1 กล่องจะมีตัวยา 2 เม็ด ควรกินทั้ง 2 เม็ด โดยเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ และเม็ดที่สองกินเมื่อครบ 12 ชั่วโมงหลังจากกินเม็ดแรกแล้ว ซึ่งวิธีนี้จะทำให้มีประสิทธิภาพสูงมาก แต่ก็มีผลข้างเคียงมากเช่นกัน
7. ทำให้ขาดแคลเซียม
จากผลการวิจัยระบุว่า ผู้หญิงที่รับประทานยาคุมกำเนิด ต้องการปริมาณแคลเซียมมากถึง 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งการกินยาคุมฉุกเฉินมากเกินไป จะมีผลเสียต่อมวลกระดูกเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุน กระดูกแตกหักง่ายและเปราะเมื่อมีอายุที่มากขึ้น
โดยอาจเสริมด้วยการดื่มนมวันละ 3 แก้ว กินโยเกิร์ตวันละ 3 ถ้วย กินเนยหรือซีเรียล น้ำผลไม้แบบเสริมแคลเซียมวันละ 3 มื้อ ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณที่มากกว่าปกติ
จะเห็นได้ว่าการกินยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีแต่ประโยชน์อย่างเดียว เพราะอาจทำให้เกิดผลค้างเคียงในภายหลังได้ ซึ่งหากไม่จำเป็นจริงๆ ก็ควรจะใช้วิธีอื่นดีกว่า ซึ่งยาคุมฉุกเฉินนั้น ผู้หญิงเราควรกินไม่เกิน 2 ครั้งเท่านั้น หากเกินกว่านี้อาจเป็นอันตรายได้มากทีเดียว