อาการวิงเวียนศีรษะเป็นอาการที่พบได้บ่อยและมักไม่ใช่สัญญาณเตือนของโรคร้ายแรงใดๆ แต่ก็ควรได้รับการตรวจประเมินโดยแพทย์
คำว่า “วิงเวียนศีรษะ (dizziness)” มีความหมายแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางครั้งใช้เพื่ออธิบายความรู้สึกวิงเวียน หรือการทรงตัวมีปัญหา ในขณะที่บางคนใช้เพื่ออธิบายความรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมของพวกเขากำลังหมุนอยู่
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
เนื่องจากอาการค่อนข้างคลุมเครือและอาจมีสาเหตุมาจากสิ่งต่างๆ มากมาย จึงอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาสาเหตุของอาการวิงเวียนศีรษะ
ข้อมูลต่อไปนี้อธิบายถึงสิ่งที่คุณควรทำหากมีอาการวิงเวียนศีรษะโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน และสาเหตุที่พบได้บ่อยของอาการดังกล่าว
การเข้าพบแพทย์
ให้ไปพบแพทย์หากคุณรู้สึกวิงเวียนศีรษะหรือรู้สึกทรงตัวไม่ได้ และคุณรู้สึกกังวล โดยเฉพาะถ้าคุณมีอาการอื่นๆ ด้วย เช่น เป็นลม หรือปวดศีรษะ
แพทย์จะทำการหาสาเหตุและตรวจให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้เป็นอาการเวียนศีรษะแบบ vertigo ซึ่งเป็นอาการวิงเวียนศีรษะชนิดรุนแรง ที่คุณจะรู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมภายนอกหมุนหรือมีการเคลื่อนไหว
แพทย์จะต้องการทราบถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี้:
- อาการวิงเวียนศีรษะเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน หรือเกิดขึ้นหลังจากมีอาการป่วย
- คุณมีอาการวิงเวียนศีรษะซ้ำหรือไม่ และถ้ามี เมื่อใดที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว
- ระยะเวลาที่มีอาการวิงเวียนศีรษะครั้งล่าสุด
อาการวิงเวียนศีรษะบางครั้งอาจเกิดจากสภาวะของหู วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยแยกความแตกต่างระหว่างอาการวิงเวียนศีรษะที่เกี่ยวข้องกับหู และอาการวิงเวียนศีรษะที่เกิดจากสาเหตุอื่นๆ คือ อาการจะเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อคุณตั้งตัวตรงหรือนอนลงเท่านั้นใช่หรือไม่
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อาการวิงเวียนศีรษะที่เกิดขึ้นเมื่อคุณตั้งตัวตรงมักไม่เกี่ยวข้องกับหู ส่วนอาการวิงเวียนศีรษะที่เกิดขึ้นเมื่อนอนหลังมักเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัสที่หู ซึ่งไม่สามารถรักษาได้ด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (ยาปฏิชีวนะ)
เป็นความคิดที่ดีหากคุณจะบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับอาการวิงเวียนศีรษะ โดยการบันทึกเวลาและสถานที่ที่เกิดอาการ และนำข้อมูลบันทึกนี้ไปให้แพทย์ดูด้วย สิ่งที่คุณควรบันทึกได้แก่:
- คุณกำลังทำอะไรในขณะที่มีอาการวิงเวียนศีรษะ
- ระยะเวลาที่มีอาการและอาการแย่มากน้อยแค่ไหน
- คุณมีอาการอื่นๆ ด้วยหรือไม่ เช่น เป็นลม อาเจียน คลื่นไส้ ตามองภาพไม่ชัด ปวดศีรษะ สูญเสียการได้ยิน หูอื้อ
ถ้าคุณกำลังใช้ยาอื่นๆ อยู่ในขณะนี้ ให้แจ้งแพทย์ทราบด้วย เพราะยาที่คุณใช้อาจมีผลข้างเคียงคืออาการวิงเวียนศีรษะ ถ้าจำเป็นแพทย์จะพิจารณาจ่ายยาตัวอื่นให้กับคุณแทน
คุณอาจได้รับการส่งต่อไปยังผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจเพิ่มเติม
สาเหตุของอาการวิงเวียนศีรษะที่พบบ่อย
สาเหตุของอาการวิงเวียนศีรษะที่พบได้บ่อย ได้แก่:
- หูชั้นในอักเสบ (Labyrinthitis) คือมีการติดเชื้อในหูชั้นใน ซึ่งส่งผลต่อการได้ยินและการทรงตัว และสามารถทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะชนิดรุนแรง ที่เรียกว่า vertigo ได้
- ไมเกรน (migraine) อาการวิงเวียนศีรษะอาจเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการปวดศีรษะ หรือเกิดขึ้นแม้ไม่มีอาการปวดศีรษะ
- ความเครียดหรือวิตกกังวล โดยเฉพาะถ้าคุณมีแนวโน้มที่จะมีอาการหายใจลึก ยาว และเร็วกว่าปกติขณะพัก(hyperventilate)
- ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ (hypoglycaemia) มักพบในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนท่าทาง คือมีการลดลงของความดันโลหิตกะทันหันเมื่อนั่งหรือลุกกะทันหัน ซึ่งอาการจะดีขึ้นหลังจากนอนราบลง มักพบในผู้สูงอายุ
- การสูญเสียน้ำ (dehydration) ซึ่งอาจเกิดจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอขณะออกกำลังกาย หรือป่วยและมีอาการอาเจียน หรือท้องเสีย
- เลือดไปเลี้ยงสมองส่วนหลังไม่เพียงพอ (Vertebrobasilar insufficiency) ซึ่งเกิดจากเส้นเลือดที่นำเลือดจากหัวใจไปสมองเกิดการอุดตัน
สาเหตุของอาการวิงเวียนศีรษะที่พบได้น้อย
สาเหตุของอาการวิงเวียนศีรษะที่พบได้น้อย ได้แก่
- ป่วยเป็นโรคร้ายร้ายที่ส่งผลต่อร่างกายทั้งร่างกาย
- การใช้ยาเสพติดหรือการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินไป (ทั้งการดื่มในขณะนี้ หรือการดื่มแอลกอฮอล์ในทางที่ผิดในระยะยาว)
- ยาบางชนิด เช่นยาต้านโรคซึมเศร้า หรือยาลดความดันโลหิต
- มีปัญหาเกี่ยวกับจังหวะการเต้นของหัวใจ เช่น โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด atrial fibrillation คือหัวใจเต้นเร็วและผิดจังหวะ
- พิษจากคาร์บอนมอนอกไซด์