โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังคือคำเรียกรวมของกลุ่มอาการหายใจลำบากเรื้อรัง โดยโรคนี้สามารถแบ่งได้ 2 ชนิดคือโรคหลอดลมอักเสบและถุงลมโป่งพองโดยพบโรคหลอดลมอักเสบได้บ่อยกว่า ศูนย์ป้องกัน และควบคุมโรค (CDC) กล่าวว่าระหว่างปี 2011-2012 มีผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 8.7 ล้านคน ผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง 60% เป็นผู้หญิง และมากกว่า 40% ของกลุ่มนี้มีอายุระหว่าง 45-64 ปี
โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังคืออะไร?
หลอดลมอักเสบคือการอักเสบของหลอดลมซึ่งทำหน้าที่นำอากาศเข้าสู่ปอด เมื่อหลอดลมมีการอักเสบจะทำให้ผนังเยื่อบุของหลอดลมมีอาการบวม และหนาตัวขึ้น และทำให้เกิดการหลั่งมูกออกมามากขึ้น ซึ่งมูกเหล่านี้จะทำให้หลอดลมตีบแคบและอุดกั้นทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการไอมีเสมหะ หลอดลมอักเสบสามารถเกิดได้ทั้งแบบเฉียบพลัน และเรื้อรัง หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน มักเกิดจากการติดเชื้อชั่วคราว หรือการระคายเคืองในปอด และมักเกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ ผู้ป่วยที่เป็นหลอดลมอักเสบแบบเฉียบพลันส่วนใหญ่มักสามารถหายได้ภายในเวลาไม่กี่วันแต่อาจจะมีไอมีเสมหะคงอยู่ได้หลายสัปดาห์ แต่ในผู้ป่วยที่เป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรังนั้นหลอดลมจะยังคงมีการระคายเคือง และอักเสบต่อเนื่อง ในผู้ที่เป็นหลอดลมอักเสบเรื้อรัง (มากกว่าเฉียบพลัน) อาการไอมีเสมหะสามารถอยู่ได้นนกว่า 3 เดือนใน 1 ปี หรือ 2 ปีติดกัน
ยุค New Normal สุขภาพ เป็นสิ่งที่ทุกคนใส่ใจมากยิ่งขึ้น
ถ้าเริ่มมีอาการเจ็บคอ คันคอ ระคายคอ หรือมีเสมหะ เหนียวคอ มาดู 5 วิธี บรรเทาง่ายๆ ได้ผล อย่ารอให้เป็นหนัก
สาเหตุของการเกิดหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
การสูบบุหรี่เป็นเวลานานเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังซึ่งรวมถึงโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังที่พบบ่อยที่สุด อย่างไรก็ตามมีผู้ป่วยประมาณ 1 ใน 6 ที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อนแล้วเป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังจาก
สาเหตุสำคัญอื่นๆ ที่ทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังประกอบด้วย
- มลพิษภายในอาคารจากฝุ่นในอุตสาหกรรม และควันในสถานที่ทำงาน มลพิษในอากาศ หรือควันบุหรี่
- โรคหอบหืดที่ไม่สามารถควบคุมโรคได้เป็นเวลานาน
- การมีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจบ่อยในช่วงเด็ก
หลอดลมอักเสบเรื้อรังนี้จะไม่สามารถเกิดได้จากความผิดปกติทางพันธุกรรมของการขาดโปรตีน A1AT เหมือนในโรคถุงลมโป่งพอง
อาการของโรคถุงลมโป่งพอง
นอกเหนือจากอาการไอมีเสมหะแล้วนั้น ผู้ป่วยอาจมีอาการดังต่อไปนี้
- หายใจสั้นขึ้นโดยเฉพาะขณะออกกำลังกาย
- หายใจมีเสียงวี๊ด
- อ่อนเพลีย
- แน่นหน้าอก
- มีการติดเชื้อทางระบบหายใจบ่อย ซึ่งจะทำให้อาการแสดงอื่นๆ แย่ลง
อาการเหล่านี้มักแย่ลงเมื่อมีมลพิษในอากาศมากขึ้น
การวินิจฉัย และการรักษาโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
การวินิจฉัยโรคจะเริ่มจากการซักประวัติ โดยเฉพาะเกี่ยวกับระยะเวลาที่มีอาการไอมีเสมหะ รวมถึงโรคอื่นๆ ทางการแพทย์ที่จะต้องตัดออก การวินิจฉัยโรคปอดให้ชัดเจนนั้นมักจะต้องมีการส่งตรวจเพิ่มเติม เช่นตรวจการทำงานของปอด ตรวจเลือด และใช้ภาพวินิจฉัย หลอดลมอักเสบเรื้อรังถือเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นการรักษาจึงเน้นที่การลดอาการและชะลอการดำเนินโรค ตัวเลือกในการรักษามักเป็นการใช้ยา (ยาขยายหลอดลม, สเตียรอยด์, ยาปฏิชีวนะ) การให้ออกซิเจน และการทำกายภาพให้กับปอด