หลงผิดเป็นอาการทางจิตที่ผู้ป่วยมักไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังป่วย สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความนี้
โรคหลงผิด (Delusions) คืออาการที่ผู้ป่วยมีความเชื่อหรือความคิดอย่างแรงกล้าว่าสิ่งๆ หนึ่งนั้นเป็นจริง และไม่สามารถลบความเชื่อนั้นออกไปจากความทรงจำ แม้จะพิสูจน์ได้ว่าไม่เป็นความจริงก็ตาม โดยปกติผู้ป่วยโรคหลงผิดจะยังคงใช้ชีวิตได้ตามปกติ ยกเว้นบางกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความหลงผิด อาการหลงผิดนี้อาจเกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุการณ์หรือสถานการณ์มากระตุ้นให้เกิด แต่ส่วนใหญ่แล้วมักมีเหตุนำ โดยมีความเครียดและวิตกกังวลเป็นตัวเร้า ญาติหรือผู้ใกล้ชิดควรสังเกตอาการและแนะนำให้ไปพบแพทย์
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
บางครั้งผู้ป่วยโรคหลงผิดมักมีอาการผิดปกติทางจิต เช่น มีอาการของโรคจิตเภท (Schizophrenia) และโรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar disorder) อยู่ด้วย ผู้ป่วยที่เป็นโรคหลงผิดจะไม่มีใครสามารถชักนำให้พวกเขาตระหนักว่าสิ่งที่ตนเองเชื่ออยู่นั้นผิดได้
โรคหลงผิดนั้นอาจมีอาการเหมือนกับโรคจิตหลายๆ ชนิด เช่น โรคจิตเภท (Schizophrenia) โรคจิตอารมณ์ (Schizoaffective disorder) โรคจิตหลงผิดหรือหวาดระแวง (Delusional disorder) โรคจิตแบบ Shared psychotic disorder และ Brief psychotic disorder โรคจิตจากสารเสพติด (Substance-induced psychotic disorder) โรคอารมณ์สองขั้ว (Bipolar disorder) และโรคซึมเศร้าที่มีอาการทางจิต
โรคหลงผิดอาจพบได้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคอัลไซเมอร์หรือสมองเสื่อมด้วย และอาการของโรคหลงผิดอาจยิ่งแย่ลงได้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคพาร์กินสัน (แม้จะพบได้ค่อนข้างน้อยก็ตาม)
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของโรคหลงผิด
สาเหตุที่แท้จริงของโรคหลงผิดนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่นักวิจัยเชื่อว่าปัจจัยดังต่อไปนี้อาจทำให้ความเสี่ยงต่อโรคเพิ่มขึ้นได้
- พันธุกรรม จากข้อเท็จจริงพบว่าโรคหลงผิดมักพบบ่อยกว่าในคนที่มีคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ หรือเป็นโรคทางจิตเภทอยู่แล้ว นักวิจัยจึงเชื่อว่าโรคหลงผิด รวมถึงโรคทางจิตประสาทอื่นๆ มีแนวโน้มจะถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปสู่ลูกได้
- ความผิดปกติในสมอง จากการศึกษาพบว่าโรคหลงผิดมักเกิดขึ้นเมื่อสมองส่วนใดส่วนหนึ่งเกิดความผิดปกติ ดังนั้น ความผิดปกติของสมองโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคิดและการควบคุมการรับรู้ จึงอาจเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหลงผิดได้
- สภาพแวดล้อมและสภาพจิตใจ จากหลักฐานต่างๆ พบว่า ความเครียดอาจเหนี่ยวนำให้เกิดโรคหลงผิดได้ รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์ และการใช้สารเสพติดก็น่าจะเป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้องเช่นกัน นอกจากนี้ คนที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวแปลกแยก หรือคนที่มีความผิดปกติในการมองเห็นและการได้ยินก็มีแนวโน้มจะเกิดโรคหลงผิดได้สูงกว่าคนอื่นๆ
กลุ่มอาการของโรคหลงผิด
- อาการหลงผิดว่าถูกปองร้าย (Persecutory Type)
- อาการหลงผิดว่าตนมีความสามารถเกินความเป็นจริง (Grandiose Type)
- อาการหลงผิดคิดว่าตนเองป่วย (Somatic Type)
- อาการหลงผิดว่าคู่ของตนนอกใจ (Jealous Type)
- อาการหลงผิดว่าบุคคลอื่นหลงรักตน หรือเป็นคู่รักของตน (Erotomanic Type)
ความแตกต่างของโรคหลงผิดกับประสาทหลอน
- อาการหลงผิด เป็นความผิดปกติในเนื้อหาของความคิด
- อาการประสาทหลอน เป็นการรับรู้ทางประสาทสัมผัสที่ผิดปกติ โดยไม่ได้มีสิ่งกระตุ้นจากภายนอก เช่น หูแว่ว ได้ยินเสียงพูดคุยเป็นเรื่องราว ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครพูด
การรักษาโรคหลงผิด
การรักษามักทำโดยการใช้ยาร่วมกับการบำบัดทางจิต (เช่น การให้คำปรึกษา) โดยทั่วไปอาการของโรคหลงผิดนั้นรักษาได้ค่อนข้างยาก เนื่องจากผู้ป่วยมักไม่รู้ตัวว่าตนเองมีความผิดปกติ และมีผู้ป่วยจำนวนมากที่มีอาการดีขึ้นเพียงเล็กน้อยหลังการรักษา หรืออาการหายไปเป็นบางช่วง แต่ไม่สามารถหายขาดจากโรคได้
แนวทางการรักษาโรคหลงผิดโดยทั่วไป มีดังนี้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การใช้ยา
ส่วนใหญ่แพทย์มักใช้ยารักษาโรคจิตเภท (Antipsychotics) ซึ่งจะออกฤทธิ์ยับยั้งโดพามีน (Dopamine) และ/หรือยับยั้งเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับอาการ ยาที่แพทย์มักใช้ ได้แก่
- Chlorpromazine (Thorazine)
- Fluphenazine (Prolixin)
- Haloperidol (Haldol)
- Aripiprazole (Abilify)
- Aripiprazole Lauroxil (Aristada)
- Asenapine (Saphris)
นอกจากนี้ แพทย์ยังอาจให้ยาชนิดอื่นๆ เช่น ยาระงับประสาทและยาต้านเศร้า เพื่อบรรเทาอาการวิตกกังวล หรือภาวะอารมณ์ผิดปกติในผู้ป่วยบางคนด้วย
การบำบัดทางจิต
มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยสามารถตระหนักถึงความเป็นจริงและกลับมามีความคิด ความเชื่อ และพฤติกรรมที่ถูกต้องได้ ซึ่งการเยียวยาต้องทำร่วมกันทั้งโดยแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ครอบครัว และคนรอบข้างของผู้ป่วย
ที่มาของข้อมูล
Joe Bowman, Delusions (https://www.healthline.com/health/delusions), January 2014.
Joseph Goldberg, Delusions and Delusional Disorder (https://www.webmd.com/schizophrenia/guide/delusional-disorder#4), December 2018.
ผศ. พญ.ดาวชมพู นาคะวิโร ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และ ตำราจิตเวชศาสตร์ รามาธิบดี ฉบับเรียบเรียงครั้งที่ 4, ข้อมูลจากรายการพบหมอรามา ช่วง Big Story โรคหลงผิด อาการทางจิตที่ปักใจเชื่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง, (https://med.mahidol.ac.th/ramachannel/home/article/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94-%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%9A/), พฤษภาคม 2560.