ถึงแม้ร่างกายของทุกคนจะมีภูมิคุ้มกันที่ช่วยป้องกันเชื้อไวรัสและแบคทีเรียต่างๆ แต่บางครั้งที่ร่างกายอ่อนแอก็อาจทำให้ภูมิต้านทานต่ำลง จึงทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยและติดเชื้อต่างๆ ได้ง่าย โดยเฉพาะในคนท้อง ที่มีโอกาสจะติดเชื้อง่ายกว่าคนปกติ
ผู้ที่ตั้งครรภ์หลายคนมีร่างกายอ่อนแอจากความอ่อนเพลีย ความวิตกกังวล การพักผ่อนไม่เพียงพอ รวมถึงมีโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างตั้งครรภ์ โดยโรคต่างๆ ที่เกิดจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ที่พบได้บ่อยในขณะตั้งครรภ์ มีดังต่อไปนี้
- โรคอีสุกอีใส : หากคิดว่าตัวเองเป็นโรคอีสุกอีใสขณะตั้งครรภ์ ในกรณีที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพราะการเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้ออย่างอีสุกอีใส หากเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์จะมีความรุนแรงมากกว่าเกิดขึ้นกับคนทั่วไป และยังเสี่ยงทำให้ทารกในครรภ์พิการอีกด้วย
- การติดเชื้อ CMV : เชื้อไวรัสนี้ เป็นไวรัสที่อยู่กลุ่มเดียวกับเริม อีสุกอีใส และงูสวัด เมื่อติดเชื้อที่อวัยวะใดก็จะทำให้อวัยวะนั้นๆ อักเสบ หากทารกในครรภ์ติดเชื้อ อาจทำให้เกิดความผิดปกติขึ้น เช่น ตัวเหลือง ตาเหลือง น้ำหนักตัวน้อย ศีรษะเล็ก สมองเล็ก จอตาอักเสบ หูหนวก สมองพิการ เป็นต้น
- Group B Streptococcus (GBS) : การติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ในผู้ตั้งครรภ์ที่มีสุขภาพแข็งแรง มักจะไม่ทำให้เกิดปัญหาใดๆ ต่อสุขภาพ แต่ถ้าภูมิต้านทานต่ำ ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อในอวัยวะต่างๆ ส่วนเด็กทารกที่ได้รับเชื้อแบคทีเรียชนิดนี้ อาจเสี่ยงต่อการมีภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ที่อาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้
- โรคเริม : การติดเชื้อเริมที่อวัยวะเพศ เกิดได้จากการร่วมเพศกับผู้ที่ติดเชื้อ การใช้มือช่วยในการมีเพศสัมพันธ์แล้วเผลอมาจับที่อวัยวะเพศ เป็นต้น ทำให้เกิดตุ่มน้ำที่ทำให้รู้สึกเจ็บหรือเป็นแผลเปื่อยบนอวัยวะเพศ หากเกิดขณะตั้งครรภ์ในไตรมาสที่ 2 อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้งบุตร และถ้าหากเกิดในช่วงใกล้คลอด หากทารกได้รับเชื้อที่ดวงตา อาจเสี่ยงต่อตาบอด และถ้าหากได้รับเชื้อเข้ากระแสเลือด อาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
- การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี : เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ Hepatitis B เป็นไวรัสที่ทำให้ตับติดเชื้อ คนท้องบางคนที่ติดเชื้ออาจไม่แสดงอาการ แต่สามารถเป็นพาหะนำโรคไปสู่ลูกได้ การตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อ Hepatitis B ถือเป็นส่วนหนึ่งของการฝากครรภ์ เด็กที่อยู่ในความเสี่ยงจะได้รับการฉีดวัคซีน Hepatitis B ตอนเกิดเพื่อป้องกันการติดเชื้อและโรคตับที่ร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง
- การติดเชื้อพาร์โวไวรัส B19 : เชื้อไวรัสชนิดนี้จะทำให้เกิดผื่นแดงบนใบหน้า จึงมักถูกเรียกว่า Slapped Cheek Syndrome แม้ผู้หญิงมากกว่า 60% มีภูมิคุ้มกันการติดเชื้อดังกล่าว แต่ก็ยังพบการติดเชื้อได้เรื่อยๆ และผู้ตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ 5% จากทั้งหมดมีภาวะแท้งบุตร หรือทารกเสียชีวิตก่อนคลอด
- โรคหัดเยอรมัน : ไวรัสชนิดนี้ไม่มีผลต่อผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ แต่จะมีผลต่อทารกในครรภ์ ถ้าหากมารดาได้รับเชื้อตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ในการตั้งครรภ์ อาจมีผลให้ทารกพิการ เช่น หูหนวก ตาบอด หัวใจพิการ สมองผิดปกติ เป็นต้น
- โรค HIV : ปัจจุบันมีการป้องกันการแพร่เชื้อ HIV จากแม่สู่ลูกได้มากแล้ว หากมีการติดเชื้อในระหว่างตั้งครรภ์ แต่ทานยาต้านไวรัสตามที่แพทย์สั่ง โอกาสที่ลูกจะได้รับเชื้อมีเพียง 8% เท่านั้น
- การติดเชื้อจากสัตว์ : สัตว์ต่อไปนี้ เป็นพาหะของเชื้อไวรัส และแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายต่อคนท้องและทารกในครรภ์
- แกะ : ลูกแกะและแกะสามารถเป็นตัวนำเชื้อไวรัส Chlamydia psittaci ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาวะแท้งบุตรได้
- หมู : มีงานวิจัยที่กำลังศึกษาว่าหมูสามารถเป็นต้นตอของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบอี (Hepatitis E) แม้โรคนี้จะไม่มีความรุนแรงเท่าไวรัสตับอักเสบบี แต่ถ้าหากได้รับเชื้อปริมาณมาก อาจทำให้เกิดภาวะแท้งบุตร รวมถึงอาจทำให้ผู้ที่ตั้งครรภ์เสียชีวิตจากภาวะตับวายได้
- แมว : เชื้อท็อกโซพลาสโมซิสสามารถติดต่อได้ผ่านการสัมผัสอุจจาระแมว หากเกิดการติดเชื้อในเด็กทารก อาจทำให้เกิดภาวะแท้งบุตร หรือทำให้เด็กเสียชีวิตก่อนคลอด แต่ถ้าหากเด็กไม่เสียชีวิต ก็อาจพบความผิดปกติเกี่ยวกับทางประสาท เช่น เป็นโรคลมชัก บกพร่องทางสติปัญญา เป็นต้น
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง