ครอสฟิตเตอร์ (crosfitter) คุณสามารถแยกกลุ่มคนเหล่านี้ออกได้ง่าย ๆ พวกเขามีรูปร่างลักษณะเฉพาะภายในกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นต้นขาที่แข็งแรง เอวเรียวเล็ก และไหล่ที่บึกบึน พวกเขายังมีศัพท์เฉพาะตลก ๆ ที่ใช้กันในกลุ่ม เช่น WOD หรือ Metcon แถมยังพูดถึงคนที่ชื่อ Murph และ Fran ซึ่งจากมุมมองของคนภายนอกนั้นดูลึกลับน่าค้นหาและน่าดึงดูดใจคล้ายกับการสังเกตการคุยกันในแก๊งเด็กแนวช่วงพักเที่ยงในโรงเรียนมัธยม
ข่าวดีก็คือ หากคุณอยากมีส่วนร่วมในกีฬาครอสฟิตก็สามารถไปแจมได้เลย (แม้ว่าคุณจะไม่เข้าใจศัพท์แปลก ๆ เหล่านั้นก็เถอะ) โดยภาพรวมแล้วกีฬาครอสฟิตเป็นกีฬาที่เปิดกว้างให้ทุกคน โดยเหล่าสมาชิกก็จะเต็มใจต้อนรับน้องใหม่เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ก่อนจะไปสมัครเข้าร่วม เราก็ควรทำความรู้จักกับกีฬาชนิดนี้ให้ดีเสียก่อน
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ครอสฟิตคืออะไร ?
ครอสฟิตได้ชื่อว่าเป็นกีฬาเพื่อความฟิตของร่างกาย หากคุณอ่านเว็บไซต์ครอสฟิต คุณก็จะเชื่อว่า คุณเกรก กลาสแมน (Greg Glassman) ผู้เป็นทั้งผู้ก่อตั้งและซีอีโอของทางสมาคมเป็นบุคคลแรกในประวัติศาสตร์ที่ให้คำจำกัดความกับฟิตเนสในทางที่มีความหมายและวัดได้
จริงอยู่ที่คุณกลาสแมนอาจเป็นผู้คิดค้นคำจำกัดความที่แม่นยำของคำว่าความฟิต นั่นคือการเพิ่มความสามารถในการทำงานในเวลาและวิธีการต่าง ๆ แต่เขาไม่ได้ให้คำจำกัดความกับคำว่าฟิตเนสโดยตรง นักวิทยาศาสตร์การกีฬาต่างรู้มานานแล้วว่าความหมายของฟิตเนสคือความสมดุลที่วัดได้ของสภาพร่างกาย โดยรวมองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของฟิตเนสทั้ง 5 อย่าง (ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ, ความทนของกล้ามเนื้อ, ความทนของระบบหัวใจและหลอดเลือด, ความยืดหยุ่นของร่างกาย และส่วนประกอบของร่างกาย) และองค์ประกอบที่เกี่ยวกับความสามารถของฟิตเนสอีก 6 อย่าง (ความคล่องตัว, ความเร็ว, การทรงตัว, การประสานงานในการเคลื่อนไหวร่างกาย, ความเร็วในการตอบสมอง และพละกำลัง)
ครอสฟิตเป็นการออกกำลังกายและกีฬาที่พัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางฟิตเนสอย่างรอบด้าน โดยเน้นที่การเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ยิมนาสติก การยกน้ำหนัก การวิ่ง การพายเรือ และพลัยโอเมตริก(Plyometrics)
การออกกำลังกายของครอสฟิตมีความหลากหลายสลับสับเปลี่ยนไปมาอย่างหนักหน่วง การรวมกันของท่าต่าง ๆ นี้คือสิ่งที่ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางฟิตเนสนั่นเอง อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายชนิดนี้มีกุญแจสำคัญที่ไม่ควรลืม นั่นคือความหนักหน่วง
ครอสฟิตจะให้ความสำคัญกับการปรับท่าให้เหมาะสมกับระดับความฟิตของแต่ละคน ถึงอย่างไรก็ตามการฝึกที่หนักขนาดนี้ไม่ใช่ทางที่ใช่สำหรับทุกคน และอาจเป็นอันตรายสำหรับผู้ที่มีอาการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยเรื้อรัง
10 ประเด็นที่ควรรู้เกี่ยวกับครอสฟิต
ครอสฟิตมีประโยชน์หลาย ๆ อย่างต่อชุมชนอย่างกว้างขวาง มิเช่นนั้นก็คงไม่ประสบความสำเร็จถึงขั้นมีสถาบันที่เกี่ยวข้องมากกว่า 13,000 แห่งทั่วโลก อย่างไรก็ตามการออกกำลังกายชนิดนี้อาจมีบางแง่มุมที่เหมาะและไม่เหมาะกับคุณ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ครอสฟิตไม่ได้เป็นเพียงการออกกำลังกาย แต่มันคือวัฒนธรรม
การที่ครอสฟิตได้รับการยกย่องว่าเป็นศาสนาอย่างหนึ่งก็มีที่มาที่ไป ผู้นำครอสฟิตประสบความสำเร็จในการสร้างวัฒนธรรมและชุมชนในยิมแต่ละแห่งและองค์กรขนาดใหญ่ สร้างขึ้นเป็นกำลังที่ยิ่งใหญ่โดยประกอบด้วยศิษย์ที่ทุ่มเท ต่างฝ่ายต่างร่วมกันปกป้องการออกกำลังกายชนิดนี้และชักชวนให้ผู้อื่นเข้าร่วมอีกด้วย สถาบันแต่ละแห่งก็มีความโดดเด่นของตัวเองที่ประกอบไปด้วยโค้ช สมาชิก และบางแห่งก็มีอุปกรณ์ แต่ก็ยังมีลักษณะเฉพาะที่บ่งบอกถึงความเป็นยิมครอสฟิตร่วมกัน เช่น
- - ความภาคภูมิใจในยิมเขรอะ ๆ สไตล์โรงรถ การออกกำลังกายแบบบ้าพลัง และการที่ต้องออกแรงเต็มสตรีมในการออกกำลังกายแต่ละครั้ง
- - คำศัพท์เฉพาะที่เข้าใจกันภายในกลุ่ม
- - มีความเชื่อพื้นฐานร่วมกันว่าใครก็สามารถได้ประโยชน์จากครอสฟิต พร้อมทั้งประโยชน์จากการสื่อสารระหว่างสมาชิกทั้งในและนอกยิม
- - สมาชิกทุกคนมีเป้าหมายพัฒนาฟิตเนสของตัวเอง
หากคุณรวมทุกประเด็นข้างต้นโดยทำความเข้าใจว่าครอสฟิตไม่ได้เป็นเพียงเรื่องยิมอย่างเดียว แต่สมาชิกทุกคนสามารถติดต่อกันผ่านระบบออนไลน์ และตามการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นภายในระดับชุมชน ระดับภูมิภาค หรือระดับชาติผ่านตัวกลางอย่างกีฬาครอสฟิตนี้ คุณก็จะได้วัฒนธรรมที่เข้มแข็ง คุณจะไม่ได้เข้าร่วมแต่เพียงยิมครอสฟิต แต่เป็นชุมชนชาวครอสฟิตต่างหาก
ครอสฟิตมีภาษาของตัวเอง
ยิมครอสฟิตไม่ได้เรียกว่ายิมธรรมดา แต่จะรู้จักกันว่าเป็น Box โปรแกรมออกกำลังกายก็ไม่ใช่โปรแกรมธรรมดา มันคือ WOD หากคุณไม่อยากถูกกดดันด้วยศัพท์พวกนี้ก่อนไปเข้าร่วมครั้งแรก คุณอาจจะต้องทำความรู้จักกับศัพท์เบื้องต้นเหล่านี้ก่อน ได้แก่
- - Box: ยิมครอสฟิต
- - WOD: Workout of the day หรือโปรแกรมออกกำลังกายประจำวัน
- - AMRAP: As many rounds as possible หรือจำนวนรอบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
- - ATG: Ass to grass หรือการนั่ง squat ให้ลึกที่สุด
- - For time: ความเร็วมากที่สุดที่คุณใช้ในการทำ WOD รอบหนึ่ง
- - Metcon: Metabolic conditioning หรือการออกกำลังกายแบบอินเทอร์วัลอย่างหนักเพื่อเพิ่มความอดทน
ทั้งหมดนี้เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้นนะ
ท่าออกกำลังกายเองก็มีชื่อแปลก ๆ ส่วนมากเป็นชื่อผู้หญิง เช่น แฟรน เกรซ แองจี้ บาร์บาร่า และไดแอน บางท่าก็ขึ้นชื่อว่าเป็น WOD ฮีโร่ ซึ่งจะตั้งตามทหารผู้กล้าที่เสียชีวิตภายในหน้าที่
คุณเองก็สามารถฝึกคำศัพท์เหล่านี้ได้ก่อนไปบ็อกซ์โดยหาข้อมูลจากเว็บไซต์ครอสฟิต หรือจะลงสนามไปเลยก็ได้ แต่ก็ต้องเข้าใจว่ามันอาจใช้เวลาในการเข้าใจภาษาครอสฟิตพวกนี้ได้ทั้งหมด
คุณเสียค่าใช้จ่ายกับกลุ่มที่มีเทรนเนอร์นำออกกำลังกาย ไม่ใช่แค่ค่าเข้ายิม
บางบ็อกซ์ครอสฟิตมีคลาสออกกำลังกายที่นำโดยเทรนเนอร์ผู้มีใบประกาศ และบางแห่งก็มียิมที่เปิดบริการทั่วไปที่สมาชิกสามารถเข้าไปใช้ได้เอง แต่วัฒนธรรมของพวกเขาเน้นที่การออกกำลังกายเป็นกลุ่มที่มีผู้เข้าร่วมทำไปพร้อมกันภายใต้การแนะนำและความช่วยเหลือของโค้ช วิธีการดังกล่าวนำมาซึ่งความรู้สึกเป็นทีมเดียวกันของสมาชิกและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ที่มีโค้ชช่วยปรับท่าให้ถูกต้องและให้กำลังใจ
เนื่องจากคุณต้องจ่ายค่าคลาสที่มีเทรนเนอร์นำ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนก็จะมากกว่ายิมทั่ว ๆ ไป นั่นยังไม่รวมค่าสิ่งอำนวยความสะดวกแบบยิมทั่ว ๆ ไปอีกด้วย ค่าสมาชิกก็สูงต่ำแล้วแต่สถานที่ แต่มักอยู่ช่วงราคา 2,000-5,000 บาทต่อเดือน
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ราคานี้ครอบคลุมการใช้ยิมและค่าร่วมคลาสของคุณ
คุณต้องเซียนท่ายกน้ำหนักดั้งเดิม โปรแกรมออกกำลังกายของครอสฟิตจะเน้นการเคลื่อนไหวที่พึ่งการยกน้ำหนักแบบดั้งเดิม คุณจะไม่สามารถเลือกอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักเฉพาะตามบ็อกซ์ครอสฟิต แต่คุณจะพบกับบาร์โหนดึงข้อ โครงทำสควอท ม้านั่งยกน้ำหนักแบบ bench press อุปกรณ์ฟรีเวท ไพลโอเมตริกบ็อกซ์ เชือกกระโดด และเครื่องพาย หากคุณเป็นพวกบ้าฟรีเวท และรู้จักมักจี่กับกีฬายกน้ำหนักโอลิมปิกหรือพาวเวอร์ลิฟติ้งแล้วล่ะก็ คุณอาจจะได้เรียนรู้ท่าออกกำลังกายใหม่ ๆ เช่น ท่าคลีนและท่าสแนทช์ โดยจะมีท่าทั่วไป ได้แก่
- - ท่าสควอท
- - ท่าเดดลิฟ
- - ท่าเบนช์เพรส
- - ท่าคลีน
- - ท่ากระโดดกล่อง
- - ท่าเบอร์ปี้
- - ท่าดึงข้อ
- - ท่าวิดพื้น
- - ท่าแกว่งเคทเทิลเบลล์
โปรแกรมออกกำลังกายครอสฟิตหนักหน่วงมาก
เผื่อว่าคุณพลาดประเด็นที่ชี้ไว้ก่อนหน้านี้ ครอสฟิตเป็นโปรแกรมออกกำลังกายที่สร้างขึ้นเพื่อความหนักโดยเฉพาะ เราต้องใช้แรงแทบทั้งหมดขึ้นอยู่กับเวลาและจำนวนรอบที่ออก โปรแกรมออกกำลังหนัก ๆ นี้ที่แม้จะพัฒนาความแข็งแรงของร่างกายนั้น หากทำบ่อยเกินไป หรือทำโดยไม่ให้ความสำคัญกับท่าที่ถูกต้องก็อาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกที่มากเกินไป หรือการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น
สิ่งที่คุณคาดหวังได้จากครอสฟิตคืออาการปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงหลังการออกกำลังกาย หรือ delayed onset muscle soreness (DOM) อาการนี้มักจะเกิดขึ้นประมาณหนึ่งหรือสองวันหลังการออกกำลังกายอย่างหนักและคงอยู่ได้เป็นเวลาหลายวัน ถึงอาการปวดนี้จะทำให้รู้สึกไม่สบายแต่ก็จะหายได้เองโดยไม่ก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมคือแม้จะเกิดไม่บ่อย แต่การออกกำลังกายอย่างหนักหน่วงก็สามารถทำให้เกิดอาการที่รุนแรงที่เรียกว่า rhabdomyolysis หรือ rhabdo ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อมีกล้ามเนื้อสลายและปล่อยสารที่อยู่ภายในออกมาตามกระแสเลือด หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เกิดภาวะไตวาย ภาวะความดันในช่องกล้ามเนื้อสูง (compartment syndrome) หรือมีการทำลายของเส้นประสาทถาวร อย่างไรก็ตามภาวะดังกล่าวเกิดได้ยาก และการออกกำลังกายอย่างหนักใด ๆ ก็สามารถทำให้เกิดอาการนี้ได้ มิใช่เฉพาะครอสฟิตเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการรู้จักประเมินขีดจำกัดของร่างกายตัวเองและไม่หักโหมมากเกินไป
คุณเห็นผลลัพธ์แน่นอน
หากคุณทำตามโปรแกรมครอสฟิตอย่างสม่ำเสมอจะเห็นพัฒนาการของร่างกายคุณอย่างชัดเจน อย่างเช่นในการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน The Journal of Strength and Conditioning Research ปี 2013 พบว่าทั้งผู้หญิงผู้ชายไม่ว่าจะมีระดับความแข็งแรงของร่างกายใด ๆ ก็เห็นการพัฒนาการของ VO2 max (บอกระดับความทนของระบบหลอดเลือดหัวใจ) และส่วนประกอบของร่างกายหลังการเข้าร่วมการเทรนอย่างหนักเลียนแบบโปรแกรมออกกำลังกายครอสฟิตเป็นเวลา 10 สัปดาห์ เช่นเดียวกับการศึกษาใน the International Journal of Exercise Science ในปี 2016 พบว่าการออกกำลังกายแบบครอสฟิตเพียงอย่างเดียวก็สามารถเพิ่มการใช้พลังงาน (การเผาผลาญแคลอรี่)มากกว่าการออกกำลังกายทั่วไป และการศึกษาในปี 2014 ที่ตีพิมพ์ในวารสารฉบับเดียวกันก็ชี้ว่าครอสฟิตสามารถเพิ่มพละกำลังสูงสุดได้มากกว่าการออกกำลังกายแบบดั้งเดิม (แม้นักวิจัยจะพบว่าสมรรถภาพด้านอื่น ๆ จะมีพัฒนาการที่มากขึ้นไม่แตกต่างกัน)
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงตัวอย่างการศึกษาจำนวนเล็กน้อยที่แสดงให้เห็นว่าครอสฟิตช่วยเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายอย่างรอบด้าน
ถ้าเช่นนั้นครอสฟิตเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุดอย่างนั้นหรือ ? คำตอบคือไม่ การออกกำลังกายที่ดีที่สุดคือสิ่งที่คุณสามารถทำได้อย่างสม่ำเสมอโดยไม่บาดเจ็บ ครอสฟิตอาจเหมาะสำหรับบางคน ในขณะที่คนอื่นอาจเหมาะกับการออกกำลังกายประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน การเข้าคลาสbarre การวิ่ง หรืออื่น ๆ อีกมากมายแล้วแต่คน
คุณอาจไม่ได้ลดน้ำหนัก
หากคุณวางแผนจะเล่นครอสฟิตโดยหวังจะลดน้ำหนัก คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่าครอสฟิตจะส่งผลกระทบอะไรกับร่างกายของคุณบ้าง
จริงอยู่ที่โปรแกรมการออกกำลังกายของครอสฟิตสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ (โดยเฉพาะเมื่อควบคู่กับการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ) แต่ด้วยโครงสร้างของการออกกำลังกายและการเน้นด้านการสร้างความแข็งแรงของร่างกาย คุณอาจสังเกตการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบร่างกายมากกว่าตัวเลขบนตาชั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วยเดือนแรก ๆ ของการออกกำลังกาย ซึ่งไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่เลย แทนที่น้ำหนักบนตาชั่งคุณจะลดลง ครอสฟิตจะช่วยให้คุณสร้างกล้ามเนื้อลีน ๆ และลดไขมันสะสม และหากน้ำหนักคุณอาจไม่เปลี่ยนแปลง(หรือแม้แต่เพิ่มขึ้นในบางกรณี) รูปร่างและขนาดของคุณจะเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน ทั้งนี้เนื่องจากกล้ามเนื้อมีความหนาแน่นมากกว่าไขมัน กล้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้นมา 1 ปอนด์จะใช้พื้นที่น้อยกว่าไขมันที่สูญเสียไป 1 ปอนด์ ดังนั้นถึงน้ำหนักคุณจะไม่กระดิก แต่ร่างกายคุณจะกระชับมากขึ้น
เมื่อพูดถึงสุขภาพแล้ว การมีองค์ประกอบร่างกายที่สมบูรณ์ย่อมสำคัญกว่าการมีน้ำหนักที่พอเหมาะ หากหนึ่งในเป้าหมายหลักของการเล่นครอสฟิตของคุณคือการลดน้ำหนัก คุณอาจเปลี่ยนจากการดูตัวเลขที่เปลี่ยนแปลงบนตาชั่งมาเป็นการวัดสัดส่วนร่างกายเพื่อดูพัฒนาการแทน
การบาดเจ็บเป็นเรื่องปกติ
ความเชื่อเรื่องครอสฟิตและการบาดเจ็บที่ตามมาย่อมมีที่มาที่ไป จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร the Orthopaedic Journal of Sports Medicine ปี 2014 พบว่าอัตราการได้รับบาดเจ็บจากครอสฟิตโดยรวมประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังพบอีกว่าผู้ชายมักได้รับบาดเจ็บมากกว่าผู้หญิง และอัตราการบาดเจ็บจะลดลงหากมีโค้ชช่วยจัดท่าทางที่ผิดระหว่างการออกกำลังกาย การบาดเจ็บเหล่านี้มักไม่สาหัสและหายได้ค่อนข้างไว พบได้มากที่สุดคือการบาดเจ็บช่วงหลังส่วนล่าง ไหล่ และเข่า
ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมที่ใช้ร่างกายใด ๆ ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ ยิ่งเป็นกิจกรรมที่มีการกระทบกระแทกหนัก ๆ เช่น บาสเกตบอล ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บมากกว่าการว่ายน้ำ อย่างไรก็ตามการบาดเจ็บจากการเล่นครอสฟิตสามารถหลีกเลี่ยงได้หากคุณให้ความสำคัญกับท่าทางที่ถูกต้อง ตั้งใจฟังโค้ช และฟังร่างกายตัวเองแล้วปรับการออกกำลังกายให้เหมาะสม หรือพักหากเหนื่อยมากเกินไป หากปฏิบัติตามนี้ได้คุณก็จะได้รับบาดเจ็บน้อยลง
คุณสามารถลองโปรแกรมออกกำลังกายได้ที่บ้าน
บนเว็บไซต์ครอสฟิตมี WOD ประจำวันที่คุณสามารถทำเองได้ที่บ้านหรือที่ยิมของตัวเองแทนที่จะต้องไปบอกซ์ครอสฟิต คุณอาจบันทึกผลของตัวเองผ่านระบบออนไลน์และเทียบกับคนอื่น ๆ ในชุมชนครอสฟิตรอบโลก
นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีหากคุณไม่มีบ็อกซ์ครอสฟิตใกล้ตัว หรือจ่ายค่าสมาชิกไม่ไหว เพียงแต่อย่าลืมว่าการออกกำลังกายด้วยท่าที่ถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยลดการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้น ควรจัดท่าทางให้ถูกต้องก่อนเพิ่มน้ำหนักหรือออกหนักขึ้น นอกจากนี้ทางเว็บไซต์ยังมีวิดีโอสอนท่าออกกำลังกายเบื้องต้นให้อีกด้วย
คุณสามารถเข้าร่วมการแข่งขันครอสฟิตได้ด้วย
เช่นเดียวกับกีฬาโอลิมปิก หรือ X Games ครอสฟิตก็ยังมีการแข่งขันของตัวเอง การแข่งขันนี้เริ่มจากการจัดขึ้นเป็น Crossfit Open ระดับชุมชนรอบโลก ผู้ที่ทำคะแนนได้ดีในรอบนี้ก็จะผ่านเข้าไปในระดับภูมิภาค และสุดยอดนักกีฬาขอแต่ละภูมิภาคก็จะได้รับเชิญเข้าร่วมการแข่งขัน Reebok Crossfit Games ซึ่งเป็นการแข่งขันที่รวบรวมชายหญิง เด็กวัยรุ่น ทีม และมาสเตอร์ที่ฟิตที่สุดถ่ายทอดไปทั่วโลกมาแข่งขันกันเพื่อตำแหน่ง “ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก”
และถึงแม้ว่าคุณอาจไม่คิดว่าตัวเองจะสู้ในการแข่งขันระดับสูง ๆ ได้ แต่ใครก็ตามที่ใจอยากลองแข่งขันก็สามารถร่วมการแข่งได้ทั้งนั้น
คำถามที่คุณควรถามบ็อกซ์ครอสฟิตก่อนสมัครสมาชิก
หากคุณพร้อมที่จะลองเล่นครอสฟิต คุณอาจลองถามคำถามพวกนี้ก่อน
- คุณสามารถนั่งดูหรือทดลองเรียนในคลาสก่อนได้หรือไม่ ?
การดูการออกกำลังกายจริงในคลาสก่อนลงทุนในระยะยาวเป็นสิ่งที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจลองถามหาโปรโมชั่นทดลองเรียนฟรีครั้งแรกดูเพื่อลองการออกกำลังกายจริง และตั้งใจดูว่าโค้ชมีวิธีการสอนอย่างไร จัดท่าให้บ่อยหรือไม่ รวมไปถึงว่ามีพวกฟีดแบ็กกับสมาชิกหรือไม่อย่างไร เนื่องจากท่าทางที่ถูกต้องเป็นเรื่องสำคัญในการลดการบาดเจ็บ คุณอาจต้องการสมัครสมาชิกในบ็อกซ์ครอสฟิตที่มีเทรนเนอร์ที่ให้ความสำคัญกับการจัดท่าทางที่ถูกต้อง
- มีคลาสเบื้องต้นให้กับมือใหม่หรือไม่?
เนื่องจากท่าทางมีความสำคัญเป็นอย่างมากกับโปรแกรมออกกำลังกายครอสฟิตที่สร้างได้จากการฝึกฝนที่ดี ถ้าหากมีการเข้าร่วมคลาสเบื้องต้นจึงเป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย บ็อกซ์ครอสฟิตหลายแห่งมีคลาสเหล่านี้สำหรับสมาชิกใหม่ และบางที่ยังบังคับให้ลงคลาสเหล่านี้ก่อนเริ่มโปรแกรมออกกำลังกายครอสฟิต
- โค้ชแต่ละคนมีประวัติการเทรนและใบประกาศอะไรบ้าง?
หากเป็นไปได้ คุณควรเลือกบ็อกซ์ครอสฟิตที่มีโค้ชที่ผ่านการเทรนและวิทยาศาสตร์การกีฬามา ใบประกาศสำหรับการเป็นโค้ชครอสฟิตระดับ 1 การฝึกเพียงช่วงสุดสัปดาห์ก่อนจะมาเป็นโค้ชได้ แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ไม่ดีเสมอไป แต่การมีโค้ชที่อยู่ระดับครอสฟิตสูง ๆ มีใบประกาศด้านอื่น ๆ รวมไปถึงจบวิทยาศาสตร์การกีฬาหรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องก็จะน่าเชื่อถือมากกว่า
- ข้อแนะนำใดที่ใช้วัดความเหมาะสมของการออกกำลังกาย
ครอสฟิตจะมีข้อแนะนำโดยรวมสำหรับวัดระดับความเหมาะสมกับความแข็งแรงของแต่ละคน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเทรนเนอร์ทุกคนจำเป็นต้องช่วยสมาชิกปรับโปรแกรมให้เข้ากับตัวเอง ลองถามถึงวิธีที่เทรนเนอร์ใช้เพื่อช่วยสมาชิกเลือกโปรแกรมและน้ำหนักที่เหมาะสมกับความแข็งแรงของแต่ละคน
- สังคมนอกบ็อกซ์ของสมาชิกเป็นอย่างไร?
หากการเข้าสังคมคือเหตุผลหลักที่คุณเลือกเล่นครอสฟิตแล้วล่ะก็ สิ่งสำคัญคือการค้นหาว่ามีสมาคมของสมาชิกบ็อกซ์ครอสฟิตหรือไม่อย่างไร เช่นบางที่อาจมีสมาชิกเป็นชายหนุ่มมากกว่า ในขณะที่บางที่ก็เต็มไปด้วยผู้ปกครองคนทำงาน ด้วยความแตกต่างเหล่านี้ คุณอาจอยากหาบ็อกซ์ครอสฟิตที่มีสังคมที่เข้ากับความต้องการของคุณมากที่สุด