การติดเชื้อในอกเป็นภาวะที่เกิดขึ้นบ่อยโดยเฉพาะหลังจากเป็นไข้หวัดในช่วงฤดูที่มีอากาศหนาว แม้ว่าส่วนมากแล้วการติดเชื้อในอกจะไม่รุนแรงและจะหายไปเอง แต่ก็มีบางกรณีที่ภาวะที่เกิดขึ้นรุนแรงและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
สัญญาณและอาการของการติดเชื้อในอก
อาการทั่วไปของภาวะติดเชื้อในอกมีดังนี้:
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- ไอ
- ไอมีเสมหะสีเหลืองหรือเขียว หรือไอเป็นเลือด
- หายใจไม่สะดวกหรือหายใจไม่ออก
- มีเสียงวี้ดขณะหายใจ
- มีไข้สูง
- หัวใจเต้นเร็ว
- ปวดหรือแน่นหน้าอก
- รู้สึกสับสนงุนงง
อีกทั้งคุณก็สามารถประสบกับอาการอื่นของการติดเชื้อนอกจากข้างต้นได้อย่างเช่นปวดศีรษะ เหน็ดเหนื่อย เหงื่อออกมาก ไม่อยากอาหาร และปวดกล้ามเนื้อหรือตามข้อ
อะไรเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในอก
การติดเชื้อในอกคือการติดเชื้อที่ปอดหรือทางเดินหายใจ ประเภทการติดเชื้อในอกที่พบได้มากที่สุดคือภาวะหลอดลมอักเสบกับปอดบวม
ภาวะหลอดลมอักเสบส่วนมากจะเกิดมาจากเชื้อไวรัส ส่วนภาวะปอดบวมมักจะเกิดจากแบคทีเรีย
การติดเชื้อเหล่านี้มักจะแพร่กระจายได้จากการไอหรือจามของผู้ป่วย ซึ่งจะปล่อยละอองของเหลวและสารคัดหลั่งที่มีเชื้อเข้าสู่อากาศ ทำให้ผู้อื่นได้รับเชื้อเหล่านี้ได้จากการหายใจเอาอากาศที่มีเชื้อเข้าไปนั่นเอง นอกจากนั้นเชื้อเหล่านี้ยังสามารถแพร่กระจายได้จากการสัมผัส หยิบจับมือของผู้ป่วย หรือสิ่งของที่ผู้ป่วยสัมผัสโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในอกมีดังนี้:
- ทารกและเด็กที่อายุน้อยมาก ๆ
- เด็กที่มีปัญหาด้านพัฒนาการ
- ผู้ที่มีน้ำหนักร่างกายมากเกิน
- ผู้สูงอายุ
- สตรีมีครรภ์
- ผู้ที่สูบบุหรี่
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพระยะยาวอย่างเช่นหอบหืด โรคหัวใจ เบาหวาน โรคไต โรคซิสติกไฟโบรซิส หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (chronic obstructive pulmonary disease - COPD)
- ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ (อาจจะเนื่องมาจากการเจ็บป่วยครั้งก่อน การปลูกถ่ายอวัยวะ การใช้สเตียรอยด์ขนาดสูง การทำเคมีบำบัด หรือภาวะสุขภาพอื่น ๆ อย่าง HIV)
การดูแลอาการเองที่บ้าน
การติดเชื้อในอกส่วนมากจะไม่ร้ายแรงและจะดีขึ้นเองภายในเวลาไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ คุณไม่จำเป็นต้องไปพบแพทย์เว้นแต่คุณจะมีอาการรุนแรงที่บ่งชี้ถึงการติดเชื้อร้ายแรงกว่าปกติ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ในขณะที่พักรักษาตัวที่บ้าน คุณสามารถบรรเทาอาการต่าง ๆ ได้ด้วย: พักผ่อนให้มาก ๆ ดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อเลี่ยงภาวะขาดน้ำและลดเสมหะในปอดลงจนสามารถไอได้ง่ายขึ้น ทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะ ไข้ และปวดกล้ามเนื้อ ดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาวอุ่น ๆ เพื่อบรรเทาอาการปวดคอที่เกิดจากการไอติดต่อกัน ยกศีรษะขึ้นสูงด้วยหมอนขณะนอนหลับเพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศหรือสูดไอน้ำร้อนเพื่อบรรเทาอาการไอ (ไม่ควรใช้น้ำร้อนกับเด็กเล็ก) หยุดสูบบุหรี่
เลี่ยงการใช้ยาแก้ไอเนื่องจากมีหลักฐานว่ายาเหล่านี้ได้ผลน้อยมาก และอาการไอมักจะช่วยทำให้การติดเชื้อของคุณหายเร็วขึ้นเพราะเป็นการกำจัดเสมหะออกกจากปอดของคุณ
การติดเชื้อในอกมักไม่รักษาด้วยยาปฏิชีวนะเพราะยาประเภทนี้จะออกฤทธิ์ได้ดีกับการติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่เชื้อไวรัส
แพทย์มักจะทำการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะก่อนหากคาดว่าคุณเป็นปอดบวม หรือคุณมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนอย่างมีของเหลวรอบปอด
หากมีไข้หวัดระบาดในพื้นที่อยู่อาศัยของคุณ คุณจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อร้ายแรงได้ ดังนั้นแพทย์จะทำการจ่ายยาต้านไวรัสแก่คุณ
ควรไปพบแพทย์เมื่อไร?
คุณควรไปพบแพทย์หากว่า:
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
- คุณรู้สึกไม่สบายหรือมีอาการรุนแรง
- อาการของคุณไม่ดีขึ้น
- คุณรู้สึกสับสน งุนงง หรือง่วงนอน
- คุณมีอาการหายใจลำบากหรือปวดหน้าอก
- คุณไอเป็นเลือดหรือเสมหะที่ออกมาปนเลือด
- ผิวหนังหรือริมฝีปากของคุณเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำ
- คุณกำลังตั้งครรภ์อยู่
- คุณมีอายุ 65 ปีขึ้นไป
- คุณมีน้ำหนักร่างกายสูงและหายใจลำบาก
- คุณคาดว่าเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีมีภาวะติดเชื้อในอก
- คุณมีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ
- คุณกำลังมีภาวะสุขภาพระยะยาวอยู่
แพทย์จะสามารถทำการวินิจฉัยร่างกายคุณโดยสังเกตจากอ่าการและฟังเสียงทรวงอกของคุณด้วยเครื่องมือสำหรับฟังเสียงหัวใจและปอด
ในบางกรณีอาจมีการทดสอบอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่นการเอกซเรย์หน้าอก การทดสอบลมหายใจ และการตรวจเสมหะหรือตัวอย่างเลือดตามความจำเป็น
การป้องกันภาวะติดเชื้อในอก
มีหลากหลายวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงที่คุณจะติดเชื้อที่อกและหยุดการแพร่กระจายของโรคสู่ผู้อื่นดังนี้:
เลิกสูบบุหรี่ หากคุณเป็นคนสูบ วิธีการป้องกันการติดเชื้อในอกที่ดีที่สุดคือการเลิกบุหรี่เสีย เนื่องจากการสูบบุหรี่จะทำลายปอดและระบบภูมิต้านทานโรคต่อการติดเชื้อลง
รักษาความสะอาด แม้ว่าภาวะติดเชื้อในอกส่วนมากจะไม่นับเป็นโรคติดต่อเหมือนกับภาวะติดเชื้ออื่น ๆ อย่างไข้หวัด คุณก็สามารถแพร่เชื้อใส่ผู้อื่นได้ด้วยการจามหรือไอ ดังนั้นในขณะที่คุณกำลังจะจามหรือไอ คุณควรทำการปิดปากและล้างมือให้สะอาด และนำกระดาษที่คุณจามใส่ทิ้งลงถังขยะทันที
อาหารและแอลกอฮอล์ การบริโภคแอลกอฮอล์ปริมาณมาก ๆ เป็นเวลานานจะทำให้ระบบภูมิต้านทานตามธรรมชาติของปอดอ่อนแอลงจนเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในอกได้
ในการลดความเสี่ยงในปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์นั้น คุณควร: ไม่ดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 14 หน่วยต่อสัปดาห์ หากคุณพยายามลดปริมาณการดื่มของตนเอง วิธีที่ดีที่สุดคือการปรับให้มีวันงดดื่มหลาย ๆ วันภายในหนึ่งสัปดาห์
การดื่มเป็นประจำหรือดื่มบ่อย ๆ ในช่วงหลาย ๆ สัปดาห์จะเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของคุณเท่ากับการดื่มแอลกอฮอล์ทุกวันเป็นประจำในช่วงเวลาสั้น ๆ
การทานอาหารให้สมดุลและถูกหลักโภชนาการจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกันได้
การฉีดวัคซีน หากคุณมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในอกสูง แพทย์จะแนะนำให้คุณฉีดวัคซีนต้านไข้หวัดและเชื้อนิวโมคอกคัส (เชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดปอดบวม)
วัคซีนเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อในอกในอนาคตได้ โดยการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดกับเชื้อนิวโมคอกคัสมักจะแนะนำให้แก่:
- ทารกและเด็กเล็ก
- ผู้หญิงมีครรภ์ (วัคซีนป้องกันไข้หวัดเท่านั้น)
- ผู้สูงอายุที่มากกว่า 65 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพระยะยาวหรือมีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ