ในเดือนนี้ถือได้ว่าเป็นเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ พัฒนาการต่างๆ ของทารกในครรภ์ ความยาวจะประมาณ 20 นิ้ว น้ำหนักตัวประมาณ 3,000-3,400 กรัม อวัยวะทุกส่วนรวมทั้งปอดสมบูรณ์ พร้อมที่จะคลอด ส่วนนำหรือศีรษะจะเคลื่อนลงสู่อุ้งเชิงกราน และทารกในครรภ์มีการเคลื่อนไหวน้อยลง
ในเดือนที่ 9 ของการตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่คุณแม่สามารถรู้สึกได้ดังนี้
- เด็กดิ้นน้อยลง
- ตกขาวมากขึ้น และเป็นมูกข้น บางครั้งมีเลือดจางๆ หลังการตรวจภายในหรือการมีเพศสัมพันธ์
- ปัสสาวะบ่อยจากการที่ทารกเคลื่อนตัวลงอุ้งเชิงกราน
- ท้องผูกมากขึ้น
- ปวดแสบกระเพาะอาหาร อาหารไม่ย่อย ท้องอืด
- ปวดศีรษะเป็นครั้งคราว ตาพร่า และ เป็นลมบ่อย
- คัดจมูก อาจมีเลือดกำเดาไหล และหูอื้อบ้าง
- เลือดออกตามไรฟันเวลาแปรงฟัน
- เป็นตะคริวที่ขา
- บวมที่ข้อเท้า และหลังเท้า อาจบวมที่หน้าและมือด้วย
- คันผิวหนังหน้าท้อง
- ปวดหลังเพิ่มขึ้นและรุนแรงขึ้น
- หลอดเลือดขอดที่ขา
- เป็นริดสีดวงทวาร
- หายใจดีขึ้น
- นอนไม่หลับ หรือหลับได้ไม่นาน
- มดลูกจะหดตัวถี่ขึ้น รุนแรงมากขึ้น บางครั้งมีอาการเจ็บด้วย
- มีอาการเจ็บครรภ์หลอกหรือการเจ็บครรภ์เตือน (Braxon hicks contraction)
- อุ้ยอ้ายเคลื่อนไหวตัวลำบาก และเสี่ยงต่อการหกล้ม
- มีน้ำนมเหลืองไหลออกททางหัวนมมากขึ้น
- เหนื่อยง่ายหรือรู้สึกมีพลังงานมากขึ้น หรือมีทั้ง 2 อย่างสลับกัน
- หิวบ่อย กินจุ หรือเบื่ออาหาร กินได้น้อยลง
- ตื่นเต้น วิตกกังวล กลัวมากขึ้น
- ผ่อนคลายมากขึ้นเพราะใกล้คลอดแล้ว
- หงุดหงิด อ่อนไหวง่าย กับคำพูดโดยเฉพาะเกี่ยวกับการคลอด
- โกรธง่าย สับสน
สิ่งที่แพทย์ผู้ดูแลครรภ์จะให้คุณทำในช่วงเดือนนี้ได้แก่
- ชั่งน้ำหนักตัวและวัดความดันเลือด
- ตรวจน้ำตาลและสารไข่ขาวในปัสสาวะ
- ฟังเสียงเต้นของหัวใจของทารกในครรภ์
- ตรวจขนาดและรูปร่างของมดลูก ท่าของทารกในครรภ์
- ความสูงของระดับยอดของมดลูก
- อาการบวมที่มือและเท้า และหลอดเลือดที่ขา
- ประเมินสภาพมดลูกด้วยการตรวจภายใน
- ความถี่ห่างและความรุนแรงในการหดเกร็งของมดลูก
- อาการผิดปกติที่เกิดขึ้น
สิ่งที่ต้องดูแลเป็นพิเศษในเดือนนี้
สิ่งที่ต้องดูแลเป็นพิเศษในเดือนนี้คือการเตรียมตัวสำหรับการคลอด ได้แก่
ฝากครรภ์ คลอดบุตรวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 79 บาท ลดสูงสุด 65%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- การเลือกวิธีการคลอดลูก ว่าต้องการคลอดลูกแบบธรรมชาติ หรือการผ่าตัดคลอด
- ทำความคุ้นเคยกับโรงพยาบาลและห้องคลอด อาจเดินไปดูเด็กแรกเกิด ห้องพักหลังคลอด หรือขอดูวีดีทัศน์เกี่ยวกับห้องคลอด เพื่อทำความคุ้นเคยกับมันมากขึ้น
- ทารกเกินกำหนดคลอด คือตั้งครรภ์นานเกิน 42 สัปดาห์ การตั้งครรภ์ที่นานเกินกว่าปกติคือนานเกิน 39 สัปดาห์ คุณหมอที่ดูแลครรภ์จะพิจารณาตรวจครรภ์เป็นพิเศษว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป หากครบ 42 สัปดาห์แพทย์จะกระตุ้นให้เกิดการคลอดโดยธรรมชาติ หรืออาจจะต้องผ่าตัดคลอดแล้วแต่กรณี
- การแตกของถุงน้ำคร่ำ โดยทั่วไปมักจะมีการแตกเตือนก่อนล่วงหน้า คือจะมีการซึมออกมาเล็กน้อยก่อน โดยเฉพาะตอนลุกนั่ง หรือในขณะเคลื่อนไหว ดังนั้นจึงไม่ต้องกลัว มีเพียงบางรายเท่านั้นที่แตกออกมาเยอะ
เวลาที่เหมาะสมที่ควรไปโรงพยาบาลเพื่อคลอด สามารถพิจารณาได้ดังนี้
- เมื่อเริ่มมีการเจ็บครรภ์จริง มดลูกจะแข็งตัวบ่อยครั้งเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ประมาณ 10 นาที จะเจ็บอย่างน้อย 1 ครั้ง และจะเจ็บมากขึ้นบ่อยขึ้นทุก 3-5 นาที เจ็บแต่ละครั้งนาน 35-45 วินาที คุณแม่บางท่านอาจมีอาการร้าวไปถึงขาหลัง นั่งหรือนอนพักแล้วอาการเจ็บไม่หายไป และมีมูกเลือดหรือน้ำใสๆ คล้ายปัสสาวะออกจากช่องคลอด เรียกว่า น้ำเดิน
- การเจ็บครรภ์ไม่สามารถเลือกเวลาหรือรู้ล่วงหน้าได้ ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไรอยู่ ควรรีบไปโรงพยาบาลไม่ต้องรอให้เป็นเวลาราชการ
- หากเจ็บครรภ์น้อยๆ ควรพักอยู่บ้าน 4-8 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าเจ็บครรภ์จริง หรืออาจโทรขอคำปรึกษากับคุณหมอหรือพยาบาลได้