ว่านกาบหอย เป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยามากมาย แพทย์แผนโบราณนิยมนำมาเข้าตำรับยาหลายตำรับ สามารถใช้ภายนอกก็ได้ ต้มดื่มก็ได้ประโยชน์ ว่านกาบหอยที่กล่าวถึงในบทความนี้ เป็นพรรณไม้คนละชนิดกันกับต้นกาบหอยแครง ซึ่งเป็นต้นไม้กินแมลง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dionea muscipula ซึ่งที่มาของชื่อนั้นมาจาก “Muscipula” ที่แปลว่า “กับดักหนู” ว่านกาบหอย และต้นกาบหอยแครง เป็นพรรณไม้คนละชนิดและคนละสกุล มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่คนมักสับสนว่าเป็นพรรณไม้ชนิดเดียวกัน เนื่องจากชื่อใกล้เคียงกัน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tradescantia spathacea Stearn
ตรวจโควิด-19 (COVID-19) วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1188 บาท ลดสูงสุด 7500 บาท
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

ชื่อวงศ์ COMMELINACEAE
ชื่อพ้อง Rhoeo spathacea (Sw.) Stearn
ชื่ออังกฤษ Boat-lily, Oyster Lily, Oyster plant, White flower tradescantia
ชื่อท้องถิ่น อั่งเต็ก ฮำ่หลั่งเฮี๊ยะ (จีนแต้จิ๋ว), ปั้งหลานฮวา ปั้งฮัว (จีนกลาง)
ถิ่นกำเนิดของว่านกาบหอย
ต้นว่านกาบหอย หรือ กาบหอยแครง มีถิ่นกำเนิดในแถบเม็กซิโก คิวบา และอเมริกากลาง มีเขตการกระจายพันธุ์ไปยังประเทศต่างๆ รวมทั้งทวีปเอเชียด้วย ว่านกาบหอยขยายพันธุ์ได้ด้วย ไหล หรือปักชำในพื้นที่ปลูกในช่วงฤดูฝน หรือปักชำในถุงเพาะชำในโรงเรือนนอกฤดูฝน เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงครึ่งวัน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของว่านกาบหอย
ว่านกาบหอย จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก มีอายุ 3-5 ปี มักขึ้นเป็นกอๆ ไม่มีการแตกกิ่งก้าน ลำต้นอวบใหญ่ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5-5 เซนติเมตร ความสูงของต้นประมาณ 30-50 เซนติเมตร ใบเดี่ยวรูปหอกยาว หรือรูปแกมขอบขนานปลายแหลม ใบมีลักษณะหนาแข็งและตั้งตรง มีความกว้าง 2-6 เซนติเมตร ยาว 10-30 เซนติเมตร หน้าใบสีเขียวเข้ม หลังใบสีม่วง ออกดอกที่โคนใบ มีกาบใบ 2 ใบหุ้มอยู่ คล้ายเปลือกหอยแครง ดอกสีขาวขนาดเล็ก ดอกหนึ่งมี 3 กลีบ กลีบดอกรูปไข่ กลมรี ผลเป็นผลแห้ง เมื่อแตกออกจะแยกออกเป็น 2-3 แฉก รูปกระสวย
ตรวจโควิด-19 (COVID-19) วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1188 บาท ลดสูงสุด 7500 บาท
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

สรรพคุณของว่านกาบหอย
ตามตำราของประเทศต่างๆ พบว่าว่านกาบหอยมีสรรพคุณดังต่อไปนี้
- ตามตำรายาไทยใช้ใบสดของกาบหอยแครงหรือว่านกาบหอยเป็นยาแก้เจ็บคอ แก้ไอ โดยใช้ใบสด 3 ใบ นำมาต้มผสมกับน้ำตาลกรวดเล็กน้อย ดื่มเป็นยา และนำไปเข้าตำรับยาแก้พิษไข้หรือโลหิตเป็นพิษ
- ตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน กล่าวว่า ใบและดอกของว่านกาบหอยหรือกาบหอยแครงมีรสจืดชุ่ม เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ที่ตับและปอด ใช้เป็นยาทำให้เลือดเย็น แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไอ แก้ร้อนในปอด แก้ไอเป็นเลือด แก้เลือดกำเดา แก้ปัสสาวะเป็นเลือด แก้ถ่ายเป็นเลือด แก้บิดท้องร่วง แก้ฟกช้ำ และใช้เป็นยาห้ามเลือด ใช้ดอกของว่านกาบหอยเป็นยาแก้อาการตกเลือดในลำไส้
- แพทย์พื้นบ้านของประเทศอินเดียจะใช้ใบว่านกาบหอยผสมกับน้ำมันงา ใช้เป็นยาพอกรักษาโรคผิวหนัง และโรคเท้าช้าง
- ในประเทศไต้หวันจะใช้กาบหอยแครงทั้งต้นมาตำพอแหลก ใช้เป็นยาพอกแผล มีดบาด เพื่อห้ามเลือดและแก้อาการบวมอักเสบ
แนวทางการใช้ว่านกาบหอยในการรักษาสุขภาพ
- กรณีใช้เข้าตำรับยาแก้พิษไข้หรือโลหิตเป็นพิษ ใช้ใบแห้ง ครั้งละ 15-35 กรัม หรือใช้ดอก 10-15 กรัม ต้มน้ำรับประทาน หรือนำมาผสมกับตัวยาอื่นๆ
- กรณีรับประทานเพื่อแก้ไอ แก้เสมหะเป็นเลือด แก้เลือดกำเดาออก แก้ปัสสาวะเป็นเลือด แก้ถ่ายเป็นเลือดใช้ส่วนดอก 20-30 ดอก ต้มกับน้ำร้อนดื่ม
- กรณีแก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ร้อนภายในปอด ให้ใช้ใบ 10 กรัม ต้มกับฟัก ปรุงรสด้วยน้ำตาลกรวด แล้วดื่ม
ข้อควรระวังเกี่ยวกับว่านกาบหอย
เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตรห้ามรับประทาน เนื่องจากยังขาดข้อมูลด้านความปลอดภัยในการใช้ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ทางที่ดีควรรอผลการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อให้ใช้สมุนไพรได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยมากขึ้น