หลังจากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หนักๆ วันต่อมามักจะเกิดความรู้สึกปวดศีรษะ ซึ่งระดับความรุนแรงนั้นอยู่กับชนิดและปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีแก้เมาค้างที่จะทำให้อาการนั้นบรรเทาลง และรู้สึกร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นได้
สาเหตุของการเมาค้าง
โดยปกติ ร่างกายจะมีการขับของเสียในรูปแบบของปัสสาวะ ซึ่งมักขับสารอาหารที่สำคัญอย่างแมกนีเซียม วิตามินบี และโพแทสเซียม ออกไปด้วย ทำให้เกิดการคั่งของสารแอลดีไฮด์ มีผลต่อการลดปริมาณน้ำตาลในเลือดและรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนิน จึงเกิดเป็นอาการปวดศีรษะโดยส่วนใหญ่ อาการเมาค้างจะเกิดขึ้นเมื่อระดับแอลกอฮอล์ในเลือดลดลง ซึ่งตรงกับช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักในคืนก่อน ทั้งนี้ชนิดของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปริมาณที่ดื่มเข้าไปก็ส่งผลให้เกิดอาการเมาค้างที่แตกต่างกัน หากร่างกายได้รับปริมาณแอลกอฮอล์มาก ก็จะทำให้เกิดอาการเมาค้างมากขึ้นตามไปด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อาการของการเมาค้าง
- รู้สึกสับสน มึนงง จำเหตุการณ์ไม่ได้
- ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ ตาพร่า
- พูดติดขัด ไม่ชัด กระบวนการตอบสนองล่าช้า ไม่สัมพันธ์กัน
- ทรงตัวไม่ได้ เดินเซ ชนสิ่งกีดขวาง กะระยะผิดพลาด
- ขาดสติสัมปชัญญะ และความสามารถในการบังคับยวดยานพาหนะลดลง
- ความต้องการทางเพศลดลง
- อารมณ์แปรปรวนอย่างเห็นได้ชัด
- การควบคุมตนเองและการยับยั้งชั่งใจน้อยลง และช่วงของความสนใจยังสั้นลงด้วย
วิธีป้องกันอาการเมาค้าง
- กำหนดปริมาณการดื่มสุราในแต่ละครั้ง เพื่อรักษาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดไม่ให้สูงเกินไป
- ดื่มให้ช้าลง โดยดื่มเพียงหนึ่งแก้วหรือในปริมาณที่น้อยกว่านั้นในแต่ละชั่วโมง
- ดื่มร่วมกับการทานอาหาร หรือรับประทานของกินเล่นหรืออาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตหรือไขมันรองท้องก่อน จะช่วยให้ร่างกายชะลอการดูดซึมแอลกอฮอล์ได้มาก
- ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ไปด้วย และไม่ดื่มตอนท้องว่าง จะช่วยให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้น้อยลง ทั้งนี้ น้ำเปล่าจะช่วยให้ผู้ดื่มไม่เกิดภาวะขาดน้ำ
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สีเข้ม เนื่องจากมันมีส่วนผสมของสารแขวนลอย (congener) มาก ส่งผลให้ผู้ดื่มเกิดอาการเมาค้างอย่างรุนแรง
วิธีแก้เมาค้าง
- จิบน้ำเปล่าบ่อยๆ หรือน้ำผลไม้ ป้องกันการขาดน้ำ และจะช่วยขับสารพิษหรือแอลกอฮอล์ออกทางปัสสาวะได้มากขึ้น นอกจากนี้ความเปรี้ยวจะช่วยแก้อาการคลื่นไส้ได้ แถมวิตามินซีในผลไม้พวกส้ม ยังช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้นด้วย
- รับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะ โดยเลือกรับประทานยาพาราเซมอล อย่างไรก็ดี ผู้ที่ดื่มเป็นประจำไม่ควรรับประทานยานี้ เนื่องจากยาพาราเซตามอลอาจทำลายตับอย่างรุนแรง ไม่ควรรับประทานยาแอสไพรินเพื่อลดอาการแก้ปวด เนื่องจากจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
- รับประทานอาหารรสจืดและย่อยง่าย เพื่อเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด และฟื้นฟูกระเพาะอาหารให้กลับมาทำงานได้ปกติ โดยอาจรับประทานซุปผักซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามิน
- ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้อาการเมาค้างหายไปเมื่อตื่นขึ้นมา แต่ก็ไม่ควรนอนจมบนเตียงตลอดทั้งวัน ควรลุกออกมาสูดอากาศเพื่อให้ออกซิเจนช่วยกระตุ้นการทำงานของเมตาบอลิซึม ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นได้
- ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซ้ำในวันรุ่งขึ้น โดยเฉพาะตอนเช้า เนื่องจากจะยิ่งเพิ่มฤทธิ์แอลกอฮอล์ในร่างกายให้มากขึ้น และสร่างเมาช้าลงกว่าเดิม