May 01, 2019 22:29
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้าไม่เกิน120ชม.เเล้วกินยาคุมฉุกเฉินไป ยาคุมฉุกเฉินยังช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ได้มากครับ
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีผลรบกวนกระบวนการตกไข่ รบกวนการที่อสุจิจะเข้าไปผสมกับไข่ รวมทั้งส่งผลเปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อทำให้ยากแก่การฝังตัวของไข่ที่ผสมกับอสุจิแล้ว การรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% แต่เป็นการไปลดโอกาสตั้งครรภ์ลงจากเดิม ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหากรับประทานยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาเม็ดแรกภายใน 24 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุด
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ตรวจการตั้งครรภ์นะครับ
........
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ ระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
เเละการคุมกำเนิดโดยการคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เกินสองแผงต่อเดือนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% นะคะ แต่เมื่อถุงยางรั่วซึมก็มีความเสี่ยงที่จะป้องกันไม่ได้ผล และเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากขึ้นค่ะ
ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ในวันถัดมา แม้ว่าจะมีการหลั่งอสุจิออกไปในวันก่อนแล้ว แต่ก็คงรับประกันไม่ได้ว่าจะไม่มีอสุจิหลงเหลืออยู่และหลั่งออกมาในครั้งนี้นะคะ ดังนั้น หากไม่ป้องกัน ก็ต้องถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ ซึ่งการสวนล้างช่องคลอดไม่ได้มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดนะคะ จึงไม่ได้ลดความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ให้น้อยลงค่ะ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินของผู้ถาม อาจช่วยลดความเสี่ยงของการมีเพศสัมพันธ์ทั้งสองวันดังกล่าวได้ค่ะ แต่เนื่องจากประสิทธิภาพที่ไม่สูงนัก จึงถือว่ายังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% นะคะ
แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ควรจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติ หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ โดยประจำเดือนปกติก็จะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ
ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน เป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ อาจพบ หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร และไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์นะคะ
ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ สามารถตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือหนูมีอะไรกับเเฟนวันที่ 30/4/2561 ใส่ถุงด้วยในวันถัดไปมารู้ที่หลังว่าถุงรั่วตรงปลาย หลังจากนั้นวันที่ 1/5/2561 ก็มีอะไรกับเเฟนเเต่ไม่ได้ใส่ถุงเเล้วแฟนดันหลั่งในด้วย เเต่หนูก็รีบไปล้างน้อง แล้วก็รีบกินยาคุมฉุกเฉิน อย่างนี้หนูมีโอกาสจะตั้งครรภ์มั้ยอะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)