จะมีอาการคันและมีเม็ดขึ้นบริเวณนิ้ว จะมีอาการแบบนี้ตลอดเป็นช่วงๆ อยากทราบว่าจะต้องใช้ยาตัวใหนหรือจทำยังไงให้หายขาดค่ะ

คัน เป็นเฉพาะ บริเวณ มือ และนิ้ว พบบ่อยมากสาเหตุต้นคือ ล้างมือบ่อย หรือมือโดนสบู่ สารทำความสะอาด เช่น น้ำยาล้างจาน หรือ ผงซักฟอก บ่อย ๆ อาจจากโดยการทำงาน หรือ อาชีพ เช่น แม่บ้าน

ทำให้เกิดภาวะผิวหนัง แห้ง คัน ลอก

ผิวแห้ง อาจเป็นธรรมชาติของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือในผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือนไปแล้ว

ถ้าคันมาก อาจกินยา แก้แพ้ แก้คัน เพื่อบรรเทาอาการคัน (ยาในกลุ่มแอนติฮิสตามีน - Antihistamine)
ใช้ยาทาพวกสเตียรอยด์ ลดการอักเสบและคันของผิวหนังได้ แต่ไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์ (เพราะถ้าใช้ติดต่อนานเกิน 2 สัปดาห์ อาจเกิดผลข้างเคียงที่อันตราย)
อาจทา ครีมยูเรีย น้ำมันมะกอก เบบี้ออยล์ เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหนัง (Moisturizer)

แต่วิธีดูแลผิวแห้ง ดีที่สุดคือ โดนน้ำให้น้อยลง
ใช้สบู่ที่มีความเป็นกรดด่าง (pH) เท่ากับผิวหนัง เช่นสบู่อ่อน ๆ สบู่เด็ก
อย่าฟอกถูสบู่หลายๆหน
อย่าล้างมือ บ่อย ๆ

ถ้าผิวหนังลอกเป็นแผ่น หรือ เป็นขุย พยายามอย่า ไปลอก หรือ แกะเกา เพราะจะเป็นการกระตุ้น ให้ผิวหนังหนาตัวมากขึ้น

ตุ่มเล็กๆ บริเวณนิ้วมือ นิ้วเท้า ที่ตุ่มจะมีอาการคันมาก ตอนแรกจะเห็นเป็นจุดเล็กๆ ขึ้นต่อมาก็จะรวมกันหลายๆ เม็ด ถ้าเกาแรงๆ หรือบีบแรงๆ ก็จะมีน้ำจะแตกออกมา ถ้าเป็นแล้วก็จะมีโอกาสกลับมาเป็นอีกค่อนข้างบ่อย อาการผื่นนี้เรียกว่า Dyshidrotic eczema เป็นรูปแบบหนึ่งของผิวหนังอักเสบ ของชั้นบนของผิวหนัง และมักจะเป็นผื่นที่มีอาการเรื้อรัง มีการแดง บวม คัน และผิวหนังแห้ง บางครั้งจะมีสะเก็ด แตก หรือมีน้ำเหลืองไหลออกมาด้วย อาการคัน หรือเจ็บ จะแย่ลงเมื่อถูกน้ำหรือถูกสบุ่หรือสารเคมีอื่น ๆ หากเกาผื่นแรง ๆ ตุ่มน้ำจะแตกออก และมีของเหลวไหลออกมา ทำให้ผิวหนังหนาๆ แข็งๆ และแตกง่าย และจะใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนกว่าจะหาย

วิธีรักษา

1. ใช้ ครีม steroid ยาที่ใช้จะเป็นครีมหรือขี้ผึ้งค่อนข้างแรง (High-potency) เพื่อช่วยให้หายเริ่มขึ้น และลดตุ่มน้ำใสที่เกิดขึ้น และลดการเกิดรอยแตกหลังจากที่ตุ่มน้ำแตกไปแล้ว แต่ถ้าคนที่เป็นมากอาจจะต้องใช้ชนิดรับประทาน

2. การประคบด้วยน้ำเย็น หรือความเย็น จะช่วยลดอาการคันได้ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของครีม steroid ทั้งยังลดตุ่มน้ำได้ด้วย

3. การใช้ยาแก้แพ้แก้คัน เช่น zyrtec atarac ในคนที่มีอาการคันมาก

4. การฉายแสง UV ที่เรียกว่า psoralen plus ultraviolet A (PUVA)

5. การใช้ครีมที่กดภูมิต้านทาน Immune-suppressing ointments เช่นยา tacrolimus (Protopic) and pimecrolimus (Elidel) อาจจะเป็นอีกทางเลือกหากวิธีข้างต้นไม่ได้ผล แต่อาจจะมีผลข้างเคียงที่ทำให้ติดเชื้อที่ผิวหนังได้

เราสามารถป้องกัน Dyshidrotic eczema ได้โดย
•หลีกเลี่ยงเหงื่อที่มากเกินไป
•อย่าล้างมือด้วยสบู่บ่อยเกินไป ทาโลชั่นหลังล้างมือทุกครั้ง
•ระวังอย่าให้มือและเท้าแห้งเกินไป
•หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมี โลหะ หรือ จิวเวลรี่
•ไม่ควรล้างมือด้วยสบู่บ่อยเกินไป
•อาบน้ำด้วยสบู่อ่อน ๆ และล้างสบู่ออกให้สะอาด
•พยายามให้เท้าไม่อับชื้นเกินไป
•ถ้าหากจำเป็นต้องสัมผัสกับสารเคมีอาจจะใส่ถุงมือ
•พยายามระวังเรื่องความเครียด