May 27, 2019 07:48
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ โดยปกติแล้ว โรค PCOS เดิมจะตั้งครรภ์ยากอยู่แล้วครับ และถ้ากินยาคุมแบบแผงอยู่ถูกต้อง ตรงเวลาหรือใกล้เคียงตลอด จะสามาาถคุมกำเนิดได้ ถึง ประมาณ90%
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ไม่ทราบว่าวันที่มีเพศสัมพันธ์ยังรับประทานยาคุม yaz อยู่หรือไม่ครับ ถ้าหากยังรักยาคุม yaz อยู่ต่อเนื่องทุกวันจนถึงวันที่มีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์ในวันดังกล่าวก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยมากโดยไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ
แต่ถ้าหากไม่ได้รับประทานยาคุม yaz แล้วการรับประทานยาคุมฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมและจะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงไปได้ 75-85% ครับ
หลังจากนี้ถ้าหากต้องการความมั่นใจว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
ในช่วงที่มีประจำเดือนคือไม่มีการตกไข่ครับ ทำให้ไม่มีโอกาสในการตั้งครรภ์หากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ หากหลังหมดประจำเดือนแล้วมีเพศสัมพันธ์จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ ฉะนั้นเมื่อรับประทานยาคุมกำเนิดรายเดือนจนถึงช่วงยาหลอกให้รับประทานยาหลอกจนครบแล้วเริ่มแผงใหม่ทันทีครับ ฉะช่วงให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดไม่ลดลง
และการคุมกำเนิดอีกชนิดหนึ่งคือ
การฝังยาคุมกำเนิด ซึ่งถือเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพที่ดีครับ สามารถใช้ในผู้ที่มีภาวะ PCOS หรือ ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบได้ แต่การใช้ยานี้อาจจะทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ซึ่งเป็นอาการปกติของปีแรกที่ฝังยาได้ครับ แต่อยากไรก้ตามควรตรวจสอบการตั้งครรภ์ก่อนเริ่มการคุมกำเนิดชนิดนี้ครับ
*หากมีการรับประทานยาคุมกำเริดต่อเนื่องอยู่แล้วและถูกวิธีโอกาสในการตั้งครรภ์มีน้อยครับ ไม่จำเป็นต้องทานยาคุมฉุกเฉินร่วมด้วยเนื่องจากประสิทธิภาพของยาคุมกำเนิดรายเดือนมากกว่าประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินครับ
หากมีการหยุดยาคุมกำเนิดรายเดือนหรือทานไม่ต่อเนื่อง อาจมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะภายหลังมีความเสี่ยงประมาณ14วันขึ้นไปครับ
*ภายหลังทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน1-5วันอาจมีเลือดออกได้ทางช่องคลอด ไม่ใช่เลือดประจำเดือน เป็นผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เพิ่มเติม วันที่มีเพศสัมพันธ์อยู่ใช่วงทานยาหลอกเม็ดสุดท้ายค่ะ และกำลังมีประจำเดือนอยู่ ค่อนข้างมั่นใจว่าประจำเดือน ไม่ใช่เลือดกะปริบกะปรอยจากยาคุม
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากวันที่มีเพศสัมพันธ์อยู่ในช่วงที่รับประทานยาหลอกเม็ดสุดท้าย ก็จะยังสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้อย่างปลอดภัยอยู่โดยไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ
ในกรณีนี้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มากครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เป็น PCOS รับประทานยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม (yaz) และเป็นประจำเดือนในช่วงทานยาหลอก (4 เม็ดสุดท้าย) ได้สามวัน หลังจากนั้นมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน (หลั่งนอก) และรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินทันที (ตามคำแนะนำตรงเวลา) ค้นหาข้อมูลเจอว่าเลือดประจำเดือนในช่วงหยุดยาคุมแบบแผงคือไม่มีการตกไข่ แต่ค่อนข้างกังวล อยากสอบถามว่าจริงไหมคะ แล้วความเสี่ยงของดิฉันใรการตั้งครรถ์มีมากแค่ไหน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)