February 17, 2019 21:28
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
กรณีทานยาคุมกำเนิดชนิด 28 เม็ด ในวันที่่มีเพศสัมพันธิ ถ้าไม่ได้ตรวกับวันที่ 1-5 ของการมีรอบเดือน จะไม่มีผลคุมกำเนิดทันทีค่ะ ค้องใช้การคุมกำเนิดอื่น เช่น ถุงยางอนามัยควบคู่ไปด้วยอย่างน้อย 7 วัน มิเช่นนั้นจะ ีโอกาสตั้งครรภ์ค่ะ
การหลั่งข้างนอก ( withdrawal ) เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพไม่ค่อยดีค่ะ จากสถิติ ถ้าทำได้ถูกต้องเลยโอกาสจะตั้งท้องประมาณ 4% แต่โดยทั่วๆไปหรือตามความจริงแล้ว ขณะที่อวัยวะเพศชายสอดใส่ มักมีสเปิร์มออกมาพร้อมกับร้ำหล่อลื่นบ้างบางส่วนค่ะ ทำให้โอกาสจะตั้งครรภ์ในชีวิตจริงมีสูงถึง 22-27% ค่ะ
ดังนั้น หากไม่แน่ใจ และไม่ได้คุมกำเนิดโดยวิธีอื่นๆ ช่วย อาจจะต้องรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน โดยหากรับประทานภายใน 24 ชม แรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จะเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% -90% แต่ถ้ากินภายใน 72 ชม ประสิทธิภาพได้ประมาณ 75% ค่ะ และช้าสุดที่ 120 ชม ประสิทธิภาพ ของการป้องกันการตั้งครรภ์ยังพอมีอยู่ แต่ลดลงไปมากค่ะ
หรือถ้าต้องการประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมากขึ้น จะเปลี่ยนไปคุมกำเนิดโดยใช้ ห่วงอนามัยชนิดเคลือบสารทองแดงก็ได้ค่ะ ประสิทธิภาพจะสูงกว่ายาคุมกำเนิดในช่วง 72-120 ชมค่ะ (สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 0-120 ชมได้ดี และมีประสิทธิภาพประมาณ 99%) ค่ะ
อย่างไรก็ตาม หลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาจมีผลข้างเคียงค่ะ
ผลข้างเคียงหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ได้แก่อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และหลังจากรับประทานในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินค่ะ ประจำเดือนของคนไข้ ควรมาตรวรอบตามปกติค่ะ หากพบว่าประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติเกิน 1-3 สัปดาห์ให้ทดสอบการตั้งครรภ์ หรือพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนที่จะให้ผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้นั้นจะต้องเป็นการรับประทานยาก่อนการมีเพศสัมพันธ์และจะต้องเริ่มรับประทานภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน หรือรับประทานยาต่อเนื่องมาแล้วอย่างน้อย 7 วันเท่านั้นครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรรับประทาน “ยาคุมฉุกเฉิน” แทน โดยให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์เพื่อที่จะได้ช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลง 75-85% หรืออย่างช้าที่สุดก็อนุโลมให้รับประทานภายในเวลาไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
ส่วนยาคุมมินนี่ที่ซื้อมารับประทานในตอนนี้หมอแนะนำให้หยุดรับประทานไปก่อน เนื่องจากไม่มีประโยชน์ที่จะรับประทานในขณะนี้ครับ และหลังจากนี้ถ้าหากจะมีเพศสัมพันธ์อีกก็ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยทุกครั้ง จนเมื่อประจำเดือนมาแล้วก็อาจเริ่มกลับมารับประทานยาคุมแบบรายเดือนได้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมมินนี่เป็นยาคุมรายเดือน และไม่มีผลคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ
หากใช้ยาคุมแผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะต้องรับประทานมินนี่ติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดและมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันได้นะคะ
การที่ผู้ถามรับประทานยาคุมมินนี่หลังมีเพศสัมพันธ์จึงไม่มีประโยชน์ค่ะ และยิ่งจะทำให้ประจำเดือนรอบนี้เลื่อนช้าออกไปมากขึ้นนะคะ หากยังผ่านมาไม่กี่วัน แนะนำให้หยุดใช้ค่ะ แล้วเลือกการคุมกำเนิดฉุกเฉินแทน ซึ่งมี 2 ทางเลือก ดังนี้
1. รับประทานยาคุมฉุกเฉิน ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
แต่วิธีนี้มีประสิทธิภาพไม่สูงมาก ผู้ใช้ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ 15 - 25% นะคะ และไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทาน หากจะมีเพศสัมพันธ์ซ้ำก็จะต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งค่ะ
2. ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงมาก ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.6 - 0.8% และมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้นาน 3 - 10 ปี ขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คือตอนนี้หนูทานยาคุมมาถึงเม็ดที่17แล้วนะค่ะ ประจำเดือนหนูก็ยังไม่มา หนูต้องหยุดยาคุมไหมค่ะหรือต้องทานต่อจนกว่าประจำเดือนจะมาค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากรับประทานยาคุมมินนี่มาถึงเม็ดที่ 17 แล้ว หมอไม่แนะนำให้หยุดการรับประทานยาคุมครับ เพราะถ้าหากไม่ได้มีการตั้งครรภ์ตั้งแต่แรกในตอนนี้ยาคุมก็จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้แล้ว และถ้าหากหยุดรับประทานยาคุมในช่วงระหว่างแผงก็อาจมีผลให้มีระดับฮอร์โมนที่แปรปรวนไปและเกิดประจำเดือนที่ผิดปกติได้ครับ
ในตอนนี้หมอแนะนำให้รับประทานยาคุมต่อเนื่องไปตามปกติก่อน และประจำเดือนก็น่าจะมาในช่วงที่รับประทานยาเม็ดที่ 22-28 ของแผงครับ (โดยเฉลี่ยมักเริ่มมาช่วงที่รับประทานยาเม็ดที่ 24-25) แต่ถ้าหากประจำเดือนไม่มาในช่วงเวลานี้ หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูในตอนเช้าของวันที่จะเริ่มรับประทานยาคุมแผงใหม่ครับ ถ้าหากตรวจแล้วไม่มีการตั้งครรภ์ก็สามารถรับประทานยาคุมแผงต่อไปตามปกติก่อนได้
และถ้าหากรับประทานยาคุมมาถึงเม็ดที่ 17 แล้ว หมอก็คาดว่าน่าจะเลยเวลา 120 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันไปแล้ว ในกรณีนี้จึงไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินแล้วครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ขอโทษนะค่ะพอดีจะถามเรื่องกินยาคุมนะค่ะ พอดีมีเพศสัมพันธ์กับแฟนครั้งแรกแต่แฟนไม่ได้สวมถุงยางอนามัย แต่เขาหลั่งนอกนะค่ะ หนูเลยไปซื้อยาคุมยี่ห้อมินนี่แบบ28เม็ดมากินในเย็นของวันที่มีอะไรกันกับแฟนเลยค่ะ เลยอยากถามคุณหมอว่าสามารถช่วยในการคุมกำเนิดได้ไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)