สวัสดีค่ะ ขอสอบถามหน่อยค่ะ เมื่อวันที่ 13 เมษา มีเพศสัมพันธ์แบบไม่สวมถุงยาง แต่หลั่งข้างนอก กลัวก็เลยหายาคุมฉุกเฉินกิน แต่ว่ากินหลังจากมีอะไรกัน 6 ชม. ซึ่งตอนไปซื้อที่ร้านขายยาเขาบอกให้กินหลังจากมีอะไรกัน 3 ชม. ก็เลยไม่สบายใจค่ะ แล้วก็กินเม็ดที่ 2 หลังจากเม็ดแรก 12 ชม. ค่ะ แล้วประจำเดือนจะมา วันที่ 15 เมษานี้ แต่เมื่อวันที่ 13 เมษา มีเลือดไหลออกมานิดๆ ก็คิดว่าประจำเดือนมาแล้วโล่งใจ แต่มาวันนี้ ประจำเดือนเป็นสีน้ำตาลแล้วก็มานิดๆ เองค่ะ อันนี้เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินมั้ยคะ แล้วอย่างนี้จะท้องมั้ยคะ ยังไม่พร้อมค่ะ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่นั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ครับ แต่ถ้าหากได้รับยาคุมฉุกเฉินไปภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์โอกาสตั้งครรภ์ก็จะลดลงไปได้ 85% ครับ (ยาคุมฉุกเฉินสามารถรับประทานได้อย่างช้าที่สุด 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์)

หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอดได้ และอาจมีผลทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อยประมาณ 4-5 วันครับ ในกรณีนี้จึงอาจรอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนาน 1-2 สัปดาห์ก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูอีกครั้ง โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ตามหลักแล้วการหลั่งภายนอกช่องคลอดอย่างถูกต้อง จะมีโอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4% ซึ่งหมายความว่าการตั้งครรภ์จากการคุมกำเนิดด้วยการหลั่งนอกจำนวน 100 คน จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 4 คน แต่โดยทั่วไปหรือในโลกความเป็นจริงแล้ว มันก็ต้องมีเป๊ะบ้าง ไม่เป๊ะบ้างเป็นธรรมดา ทำให้การคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ มีอัตราการล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้สูงมากขึ้นเป็น 22% หรือคิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 คน ค่ะ
การใช้ยาคุมฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมงจะมีประสิทธิ์ภาพในการคุมกำเนิดได้ดีค่ะ แต่การคุมกำเนิดทุกวิธีไม่มีผลในการคุมกำเนิดได้ 100 % นะค่ะ