ถ้ากินยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด หลังเป็นประจำเดือนไปแล้วประมาณ 2 อาทิตย์ แล้วพอเริ่มกินเม็ดแรกและเม็ดที่สอว ก็มีอะไรกับแฟนแต่สวมถุงยางอนามัยค่ะ พอวันที่สามไปมีอะไรกับแฟนอีกค่ะ แต่ไม่ได้สวมถุงยางอนามัย จะเป็นอะไรไหมคะ? ยาคุมกำเนิดจะมีประสิทธิภาพหรือยังค่ะ ในช่วงเวลาที่กล่าวไปข้างต้น

สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนให้มีประสิทธิภาพตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยานั้นจะต้องเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนครับ

ในกรณีนี้ที่ไม่ได้เริ่มรับประทานยาภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนก็จะต้องรับประทานยาติดต่อกันอย่างน้อย 7 วันก่อนยาจึงจะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยที่ในช่วง 7 วันแรกที่รับประทานยาจะต้องใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์

ในกรณีนี้จึงถือว่ามีความเสี่ยงที่จะผิดพลาดตั้งครรภ์ได้มากครับ หมอแนะนำว่าควรรีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่มเติมจากยาคุมที่รับประทานอยู่ให้เร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมงหละงมีเพศสัมพันธ์เพื่อที่จะได้ช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลง 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ

และหลังจากนี้ก็ควรรับประทานยาคุมรายเดือนต่อเนื่องไปให้ครบ 7 วันก่อน จึงจะมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยได้ครับ

ยาคุมแบบ 21 เม็ด เป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมค่ะ หากรับประทานแผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนจึงจะมีผลคุมกำเนิดได้

เมื่อผู้ถามมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันไปก่อนที่จะมีผลคุมกำเนิดจากยา ก็มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้สูงเช่นเดียวกับผู้ที่ไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิดค่ะ

ดังนั้น หากยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองโดยเร็วนะคะ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ หากใช้ทันและครบขนาด อาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาได้บ้างค่ะ

ส่วนยาคุมรายเดือน หากใช้ต่อ จะทำให้ประจำเดือนในเดือนนี้เลื่อนช้าออกไปมากนะคะ แต่ถ้าต้องการจะใช้ต่อก็สามารถทำได้ โดยต้องงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย ไปจนกว่าจะรับประทานยาคุมแผงนี้ติดต่อกันครบ 7 วัน

และเมื่อใช้ยาคุมหมดแผงแล้ว จะเว้นว่าง 7 วันก่อนต่อยาคุมแผงใหม่ ประจำเดือนควรจะมาในช่วงที่เว้นว่าง โดยมักจะมาหลังใช้ยาหมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย

แต่ถ้าเว้นว่างจนครบ 7 วันแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันที่จะต้องต่อยาคุมแผงใหม่ ถ้าผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด คือไม่ตั้งครรภ์ ก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ตามกำหนดเพื่อให้มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้ค่ะ

การดื่มเป๊ปซี่ในช่วงก่อนนอนนั้นอาจมีผลต่ออาการนอนไม่หลับได้จาก 2 สาเหตุครับ
1. สารคาเฟอีนที่อยู่ในเป๊ปซี่
2. การมีกรดและลมในกระเพาะที่มากขึ้นทำให้เกิดอาการอึดอัดแน่นท้อง

อย่างไรก็ตามการที่มีอาการนอนไม่หลับนั้นก็ยังเกิดได้จากอีกหลายสาเหตุครับ เช่น การมีความเครียดความกังวลที่มากเกินไป การมีพฤติกรรมการนอยที่ไม่เหมาะสม เช่น ทำงานก่อนนอน ดูโทรทัศน์ เล่นมือถือบนเตียง ห้องนอนมีบรรยากาศไม่เหมาะสมต่อการนอน เป็นต้น

และในหลายๆครั้งปัญหาการนอนไม่หลับก็อาจเกิดจากการมีปัจจัยเหล่านี้ร่วมกันหลายๆอย่างได้

ถ้าหากมีปัญหาการนอนไม่หลับบ่อยๆ หมอก็แนะนำให้ลองปฏิบัติตามนี้ดูครับ
1. ควรจัดห้องนอนให้มีบรรยากาศเงียบสงบ ไม่มีแสงเสียงรบกวน และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
2. ใช้ห้องนอนเพื่อการนอนเท่านั้น ไม่ใช้ห้องนอนทำกิจกรรมอื่น เช่น ดูทีวี ทำงาน อ่านหนังสือ
3. ก่อนนอน 1 ชั่วโมงควรมีเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนสบายๆ พยายามไม่คิดเรื่องเครียด เรื่องกังวลต่างๆ
4. เข้านอนเมื่อง่วงนอนเท่านั้น
5. ถ้าหากเข้านอนไปนาน 15-20 นาทีแล้วยังนอนไม่หลับก็ควรลุกขึ้นมาจากที่นอนเพื่อหากิจกรรมเบาๆทำก่อน แล้วกลับเข้าไปนอนเมื่อรู้สึกง่วงนอนอีกครั้ง
6. ตื่นนอนให้เป็นเวลาเดียวกันของทุกวัน
7. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรออกกำลังกายหักโหมก่อนนอนเพราะจะทำให้นอนไม่หลับมากขึ้น
8. ไม่นอนกลางวัน
9. ไม่ดื่มชา กาแฟ หลังเที่ยงวัน
10. ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มสุราก่อนนอน