October 22, 2019 21:29
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากได้ใช้ถุงยางอนามัยระหว่างการมีเพศสัมพันธ์แล้ว โอกาสที่จะผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะมีได้เพียง 2-15% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความถูกต้องของการใช้งานครับ และการที่ได้มีประจำเดือนมาช่วงหนึ่งประมาณ 5 วันแล้วก็เป็นการบ่งบอกว่าไม่ควรมีการตั้งครรภ์ก่อนหน้านั้นครับ เพราะถ้าหากมีการตั้งครรภ์เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะต้องเจริญหนาตัวขึ้นเรื่อยๆเพื่อรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนและจะไม่หลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือนหรือมีเลือดใดๆไหลออกมาทางช่องคลอดครับ
แต่สิ่งที่ทำให้มีความผิดปกติในกรณีนี้คือการที่ยังคงมีเลือดออกผิดปกติและมีอาการปวดท้องอยู่หลังจากที่ประจำเดือนหมดไปแล้ว ซึ่งอาการนี้ก็อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- การมีฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- การมีเนื้องอกบางอย่าง
ถ้าหากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อกันหลายวันแล้วหมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์นั้นถ้าหากยังมีความกังวลอยู่หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู เมื่อห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ประจำเดือนมาช้าไป5วันพอมาได้ก็ประมาณ5วันก็หายไปวันนึงพอวันต่อมามีเลือดสีน้ำตาลเหมือนช็อคโกแลตออกมา หลังจากนั้น2วันก็มีอาการปวดท้องเหมือนตอนมีประจำเดือนปวดเป็นพักๆบางทีตึงไปถึงหน้าขาสะโพกหลัง ก่อนประจำเดือนจะมาก็มีเพศสัมพันธ์โดยใส่ถุงยางแต่พอใกล้วันรอบเดือนก็มีอาการเครียดกลัวปจด.ไม่มา
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)