เดือนที่แล้วกินยาคุมฉุกเฉิน(12กันยายน)ประจำเดือนมาแล้ว(หมด15~19กันยายนจำไม่ค่อยได้ครับ)มาเยอะมากก ใช้ที่ตรวจครรภ์ราคาถูก(45บาท)แบบจุ่มจาก7-11(เมื่อ 1ตค)ตรวจช่วงบ่ายขึ้นขีดเดียวไม่ท้อง แต่เดือนนี้ประจำเดือนมาไม่ปกติโดยมาวันที่16 ตค น้อยมากผิดปกติโดยปัจจุบัน(17ตค)หยุดแล้วยังไม่มีเพิ่ม {{{แบบนี้ปกติไหมครับ เป็นเพราะเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ครับ แล้วจะมีโอกาสท้องไหมครับ}}} ปล.กินยาคุมฉุกเฉินแบบเม็ดเดียว(1.5mg)แล้วอาเจียนภายใน 2 ชม.ซึ่งเภสัชบอกว่าห้ามอาเจียนภายใน 30นาที ปล.2 มีเพศสัมพันธ์แบบอวัยวะเพศไม่สอดใส่ แต่มือสอดใส่ซึ่งมืออาจจะเปื้อนสารหล่อลื่นของอวัยวะเพศชายเพียงเล็กน้อย(แต่ไม่มีการเสร็จและหลั่ง)

ประจำเดือนในแต่ละรอบอาจมีปริมาณไม่เท่ากันทุกครั้งค่ะ อย่างไรก็ตาม ประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน + มาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน + มาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มากนะคะ

หากแฟนของผู้ถามมีประจำเดือนมาตรงตามที่กล่าวไปนี้ ก็ถือว่าปกติดี และไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์แล้วค่ะ

แต่ถ้าเลือดที่ออกมาล่าสุดเป็นเพียงแค่เลือดออกกะปริบกะปรอย หากกังวลว่าเลือดที่ออกมารอบก่อนไม่ใช่ประจำเดือน ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนได้นะคะ

โดยการตรวจด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ควรตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ (การตรวจในวันที่ 1 ตุลาคม จึงถือว่าเวลาที่ตรวจยังไม่เหมาะสมนะคะ)

ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดปกติค่ะ ต่อไปไม่ควรนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกตินะคะ และหากจำเป็นต้องใช้อีก ถ้ามีการอาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทาน ยาจะยังดูดซึมไม่สมบูรณ์ จึงต้องรับประทานซ้ำเพื่อทดแทนยาที่อาเจียนออกมาค่ะ

สวัสดีครับ
จากที่เล่ามาหมอคิดว่าไม่ควรมีการตั้งครรภ์แล้วครับ ด้วยเหตุผลดังนี้
1. การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไปในช่องคลอดโดยตรงจะไม่สามารถทำให้เกิดการตั้วครรภ์ได้
2. การมีประจำเดือนมาแลเวครั้งหนึ่งหลังการมีเพศสัมพันธ์เป็นการบ่งบอกว่าไม่มีการตั้งครรภ์
3. การตรวจการตั้งครรภ์ที่ผ่านมาช่วยยืนยันได้อีกทางหนึ่งแล้วว่าไม่มีการตั้งครรภ์

ประจำเดือนที่มาช้าในรอบเดือนนี้จึงน่าจะเกิดจากสาเหตุอื่นมากกว่า เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- ความเครียด
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆ หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ