เป็นภูมิแพ้ พอแพลผืนให้ผิวกลายเป็นสีดำ ต้องทำยังไง

ใช้ยาลบรอยแผลเป็น/รอยด่างดำช่วยและพยายามไม่ให้โดนแดดค่ะ แต่โดยปกติรอยดำสามารถเลือนหายไปได้เองแต่อาจต้องใช้เวลานานสักหน่อย

โดยทั่วไปรอยดำจะค่อยๆจางหายไปเองโดยไม่จำเป็นต้องมีการรักษา เพราะไม่ใช่โรค และไม่ใช่ภาวะผิดปกติ แต่เป็นภาวะปกติที่ร่างกายตอบสนองต่อการมีผิวหนังอักเสบ อย่างไรก็ตาม ถ้ากังวลหรือเพื่อผลในด้านภาพลักษณ์ การรักษารอยดำหลังผิวหนังอักเสบคือ การรักษาด้วยยาทาและ/หรือวิธีการรักษาทางผิวหนังอื่นๆร่วมกับการดูแลตนเองเช่น
-ทาครีมกันแดด: การทาครีมกันแดดบริเวณที่มีรอยดำหลังการอักเสบ จะช่วยป้องกันไม่ให้รอยนี้ดำมากขึ้นและช่วยให้รอยดำจางลงไวขึ้น
-มีการใช้ยาทาหลายชนิดเพื่อลดการเกิดรอยดำหลังการอักเสบเช่น Hydroquinone, Azelaic acid, Lactic acid, Tretinoine
-การลอกหน้าด้วยกรดชนิดอ่อนเช่น Glycolic acid peeling
-การรักษาด้วยการทำเลเซอร์เช่น Fractional carbondioxide laser, Q - switch laser
แพทย์จะเลือกรักษาด้วยยาตัวใดหรือด้วยวิธีใดขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ที่ประเมินจากหลายปัจจัยเช่น ความรุนแรงของรอยโรค ตำแหน่งที่เกิดรอยโรค สาเหตุ ลักษณะของผิวดั่งเดิม และอายุของผู้ป่วย
การใช้ยา: ไม่ควรซื้อยาใช้เองยกเว้นครีมกันแดด ควรเป็นยาจากคำแนะนำของแพทย์ หรือจากเภสัชกร เพราะตัวยาต่างๆล้วนมีผลข้างเคียงต่อผิวหนัง จนอาจทำให้อาการเลวลงกว่าเดิมค่ะ
การดูแลตนเองเมื่อเกิดรอยดำหลังผิวหนังอักเสบได้แก่
-หลีกเลี่ยงไม่ให้รอยดำถูกแสงแดดโดยตรงต่อเนื่อง
-ทาครีมกันแดดเมื่อต้องออกแดด
- ทายาที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำให้ถูกต้อง
-พบแพทย์/ไปโรงพยาบาลเมื่อกังวลในอาการหรือเมื่อมีอาการผิดปกติที่รอยดำ/รอยโรค เช่น รอยโรคขยายใหญ่ขึ้น และ/หรือมีเลือดออกเรื้อรัง และ/หรือคลำพบต่อมน้ำเหลืองโตใกล้กับรอยโรค

โดยทั่วไปรอยดำจะค่อยๆจางหายไปเองโดยไม่จำเป็นต้องมีการรักษา การรักษารอยดำหลังผิวหนังอักเสบคือ การรักษาด้วยยาทาและ/หรือวิธีการรักษาทางผิวหนังอื่นๆร่วมกับการดูแลตนเองเช่นทาครีมกันแดด: การทาครีมกันแดดบริเวณที่มีรอยดำหลังการอักเสบ จะช่วยป้องกันไม่ให้รอยนี้ดำมากขึ้นและช่วยให้รอยดำจางลงไวขึ้น
มีการใช้ยาทาหลายชนิดเพื่อลดการเกิดรอยดำหลังการอักเสบเช่น Hydroquinone, Azelaic acid, Lactic acid,
แพทย์จะเลือกรักษาด้วยยาตัวใดหรือด้วยวิธีใดขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ที่ประเมินจากหลายปัจจัยเช่น ความรุนแรงของรอยโรค ตำแหน่งที่เกิดรอยโรค สาเหตุ ลักษณะของผิวดั่งเดิม และอายุของผู้ป่วย ไม่ควรซื้อยาใช้เองยกเว้นครีมกันแดด ควรเป็นยาจากคำแนะนำของแพทย์ หรือจากเภสัชกร เพราะตัวยาต่างๆล้วนมีผลข้างเคียงต่อผิวหนัง จนอาจทำให้อาการเลวลงกว่าเดิม
ป้องกันรอยดำหลังผิวหนังอักเสบได้โดย
ป้องกันการอักเสบมากขึ้นของผิวหนังโดยไม่แกะเกาสิว, ไม่แกะเกาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง, เพราะจะทำให้เกิดอักเสบมากขึ้น ทิ้งเป็นรอยดำหลังการอักเสบได้มากขึ้น
ใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวที่อ่อนโยนต่อผิวเพื่อรักษาสุขภาพผิว ไม่ให้ผิวมันหรือผิวแห้งเกิน ไปเช่น การใช้สบู่อาบน้ำด้วยสบู่เด็กอ่อน การไม่อาบน้ำด้วยน้ำที่อุ่นจัด
หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดโดยตรงอย่างต่อเนื่องโดยใช้เครื่องป้องกันเช่น ร่ม หมวก เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และรู้จักใช้ครีมกันแดดชนิดมีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอเมื่อต้องออกแดด
สิ่งสำคัญคือควรหาสาเหตูของสิ่งกระตุ้นให้เราเกิดอาการแพ้ค่ะ เมื่อหลีกเลี่ยงได้ อาการแพ้ก็จะไม่เกิด พยายามตัดเล็บให้สั้นนะคะ เพราะเมื่อเราเผลอเกา แผลและรอยดำก็จะเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ

โดยทั่วไปรอยดำจะค่อยๆจางหายไปเองโดยไม่จำเป็นต้องมีการรักษา การรักษารอยดำหลังผิวหนังอักเสบคือ การรักษาด้วยยาทาและ/หรือวิธีการรักษาทางผิวหนังอื่นๆร่วมกับการดูแลตนเองเช่นทาครีมกันแดด: การทาครีมกันแดดบริเวณที่มีรอยดำหลังการอักเสบ จะช่วยป้องกันไม่ให้รอยนี้ดำมากขึ้นและช่วยให้รอยดำจางลงไวขึ้น
มีการใช้ยาทาหลายชนิดเพื่อลดการเกิดรอยดำหลังการอักเสบเช่น Hydroquinone, Azelaic acid, Lactic acid,
แพทย์จะเลือกรักษาด้วยยาตัวใดหรือด้วยวิธีใดขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ที่ประเมินจากหลายปัจจัยเช่น ความรุนแรงของรอยโรค ตำแหน่งที่เกิดรอยโรค สาเหตุ ลักษณะของผิวดั่งเดิม และอายุของผู้ป่วย ไม่ควรซื้อยาใช้เองยกเว้นครีมกันแดด ควรเป็นยาจากคำแนะนำของแพทย์ หรือจากเภสัชกร เพราะตัวยาต่างๆล้วนมีผลข้างเคียงต่อผิวหนัง จนอาจทำให้อาการเลวลงกว่าเดิม
ป้องกันรอยดำหลังผิวหนังอักเสบได้โดย
ป้องกันการอักเสบมากขึ้นของผิวหนังโดยไม่แกะเกาสิว, ไม่แกะเกาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง, เพราะจะทำให้เกิดอักเสบมากขึ้น ทิ้งเป็นรอยดำหลังการอักเสบได้มากขึ้น
ใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวที่อ่อนโยนต่อผิวเพื่อรักษาสุขภาพผิว ไม่ให้ผิวมันหรือผิวแห้งเกิน ไปเช่น การใช้สบู่อาบน้ำด้วยสบู่เด็กอ่อน การไม่อาบน้ำด้วยน้ำที่อุ่นจัด
หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดโดยตรงอย่างต่อเนื่องโดยใช้เครื่องป้องกันเช่น ร่ม หมวก เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และรู้จักใช้ครีมกันแดดชนิดมีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอเมื่อต้องออกแดด
สิ่งสำคัญคือควรหาสาเหตูของสิ่งกระตุ้นให้เราเกิดอาการแพ้ค่ะ เมื่อหลีกเลี่ยงได้ อาการแพ้ก็จะไม่เกิด พยายามตัดเล็บให้สั้นนะคะ เพราะเมื่อเราเผลอเกา แผลและรอยดำก็จะเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ

โดยทั่วไปรอยดำจะค่อยๆจางหายไปเองโดยไม่จำเป็นต้องมีการรักษา การรักษารอยดำหลังผิวหนังอักเสบคือ การรักษาด้วยยาทาและ/หรือวิธีการรักษาทางผิวหนังอื่นๆร่วมกับการดูแลตนเองเช่นทาครีมกันแดด: การทาครีมกันแดดบริเวณที่มีรอยดำหลังการอักเสบ จะช่วยป้องกันไม่ให้รอยนี้ดำมากขึ้นและช่วยให้รอยดำจางลงไวขึ้น
มีการใช้ยาทาหลายชนิดเพื่อลดการเกิดรอยดำหลังการอักเสบเช่น Hydroquinone, Azelaic acid, Lactic acid,
แพทย์จะเลือกรักษาด้วยยาตัวใดหรือด้วยวิธีใดขึ้นกับดุลพินิจของแพทย์ที่ประเมินจากหลายปัจจัยเช่น ความรุนแรงของรอยโรค ตำแหน่งที่เกิดรอยโรค สาเหตุ ลักษณะของผิวดั่งเดิม และอายุของผู้ป่วย ไม่ควรซื้อยาใช้เองยกเว้นครีมกันแดด ควรเป็นยาจากคำแนะนำของแพทย์ หรือจากเภสัชกร เพราะตัวยาต่างๆล้วนมีผลข้างเคียงต่อผิวหนัง จนอาจทำให้อาการเลวลงกว่าเดิม
ป้องกันรอยดำหลังผิวหนังอักเสบได้โดย
ป้องกันการอักเสบมากขึ้นของผิวหนังโดยไม่แกะเกาสิว, ไม่แกะเกาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง, เพราะจะทำให้เกิดอักเสบมากขึ้น ทิ้งเป็นรอยดำหลังการอักเสบได้มากขึ้น
ใช้ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผิวที่อ่อนโยนต่อผิวเพื่อรักษาสุขภาพผิว ไม่ให้ผิวมันหรือผิวแห้งเกิน ไปเช่น การใช้สบู่อาบน้ำด้วยสบู่เด็กอ่อน การไม่อาบน้ำด้วยน้ำที่อุ่นจัด
หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดโดยตรงอย่างต่อเนื่องโดยใช้เครื่องป้องกันเช่น ร่ม หมวก เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และรู้จักใช้ครีมกันแดดชนิดมีประสิทธิภาพอย่างสม่ำเสมอเมื่อต้องออกแดด
สิ่งสำคัญคือควรหาสาเหตูของสิ่งกระตุ้นให้เราเกิดอาการแพ้ค่ะ เมื่อหลีกเลี่ยงได้ อาการแพ้ก็จะไม่เกิด พยายามตัดเล็บให้สั้นนะคะ เพราะเมื่อเราเผลอเกา แผลและรอยดำก็จะเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ