June 19, 2018 23:15
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ถ้าหากเป็นการรับประทานยาคุมกำเนิดก่อนมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้รับประทานยาคุมกำเนิดแบบรายเดือนชนิด 21 เม็ดหรือ 28 เม็ดก็ได้ครับ
โดยให้เริ่มรับประทานยาภายใน 5 วันแแรกของการมีประจำเดือนเพื่อให้ตัวยามีผลทันทีตั้งแต่เม็ดแรก
แต่ถ้าเริ่มรับประทานช้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ต้องรับประทานต่อเนื่องจนครบ 7 วันก่อน ยาจึงจะให้ผลในการคุมกำเนิดครับ โดยในระหว่าง 7 วันแรกต้องใช้ถุงยางอนามัยในการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน
ทั้งนี้การรับประทานยาคุมแบบรายเดือนนี้ ควรรับประทานอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และรับประทานในช่วงเวลาเดียวกันของทุกวัน เพื่อให้ตัวยามีประสิทธิภาพสูงสุด คือ ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 95-99%
นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น ฉีดยาคุม ฝังยาคุม ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าการรับประทานยาคุมกำเนิด คือ ป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในการลืมรับประทานยาได้ แต่อาจมีข้อเสียตรงที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าครับ
แต่ถ้าหากเป็นการรับประทานยาคุมกำเนิดภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ ต้องรับประทานยาคุมกำเนิดเป็นชนิดยาคุมฉุกเฉินครับ โดยให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ และถ้าให้ดีก็ไม่ควรเกิน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากยิ่งรับประทานเร็ว ยาจะยิ่งมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้มาก โดยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% หากรับประทานภายใน 72 ชั่วโมงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หมายถึง "มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันไปแล้ว" ใช่มั้ยคะ?
ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% และถ้ามีเพศสัมพันธ์ไปแล้วโดยไม่ใช้ถุงยาง ต้องใช้วิธีคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ ได้แก่...
1. รับประทานยาคุมฉุกเฉิน มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% (งานวิจัยสมัยใหม่ ชี้ว่า ตัวเลขอาจสูงหรือต่ำกว่านี้มาก)
2. ใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.6 - 0.8%
ทั้งสองวิธี ต้องรีบใช้โดยเร็วหลังมีเพศสัมพันธ์ อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ
ยาคุมฉุกเฉินที่จำหน่ายในประเทศไทยในปัจจุบัน มีทั้งชนิดที่เป็น 1 เม็ด/แผง ได้แก่ ยี่ห้อเมเปิ้ล ฟอร์ท และยี่ห้อที่เป็น 2 เม็ด/แผง ได้แก่ ยี่ห้อโพสตินอร์, มาดอนนา, แมรี่ พิงค์, นอร์แพ็ก และเลดี้นอร์ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใดก็ตาม มีตัวยาเหมือนกันและปริมาณฮอร์โมนรวมทั้งแผงไม่แตกต่างกันค่ะ จึงสามารถใช้ยี่ห้อใดก็ได้
การรับประทาน แนะนำให้รับประทานครบขนาดในครั้งเดียว คือ หมดแผงในครั้งเดียว เนื่องจากงานวิจัยใหม่ ๆ ชี้ว่ามีประสิทธิภาพเหนือกว่าการแยกรับประทานเป็น 2 ครั้ง (งานวิจัยเก่าจะแนะนำว่าประสิทธิภาพไม่ต่างกัน) ในขณะที่ผลข้างเคียงของทั้งสองวิธีไม่แตกต่างกันค่ะ
และเนื่องจากประสิทธิภาพไม่สูงมากนัก เมื่อรับประทานแล้ว ให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ ถ้าไม่มีประจำเดือนมา ให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ มาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ส่วนการใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง จะมีประสิทธิภาพสูงกว่ายาคุมฉุกเฉินมากค่ะ และมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้นาน 3 - 10 ปี (ขึ้นกับรุ่นของห่วงที่ใช้) แต่ต้องให้สูตินรีแพทย์ใส่ให้นะคะ หากสนใจคุมกำเนิดฉุกเฉินด้วยวิธีนี้ แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านหรือโรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษาเลยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ยังค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ถ้ามีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ควรกินยาคุมแบบไหนค่ะถึงจะไม่ท้อง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)