August 25, 2019 16:37
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ยาคุมฉุกเฉิน นอกจากทำให้เลือดออกกระปริดกระปรอย ยังทำให้ประจำเดือนมาเร็วขึ้น หรือช้าลงได้ แต่เพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นยาเร่งประจำเดือนให้มาเร็วครับ
ส่วนถ้าประจำเดือนไม่มาช่วงรอบเดือน แนะนำให้ซื้อชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองมาทดสอบครับ โดยเก็บปัสสาวะหลังตื่นนอนซึ่งเป็นปัสสาวะใหม่ครับ
โดยตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2 สัปดาห์
และถ้าผลลบแนะนำให้ทดสอบซ้ำอีกครั้งหลังจากครั้งแรกอย่างน้อย 2-3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ครับ (อาจเปลี่ยนยี่ห้อการตรวจครับ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ผู้ถามจะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล และไม่จำเป็นจะต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินเพิ่มอีกนะคะ
แต่ถ้าใช้ถุงยางไม่ถูกต้อง หรือมีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ก็จะไม่มีผลป้องกันจากถุงยางที่ใช้แล้ว การรับประทานยาคุมฉุกเฉินเร็วและครบขนาดอาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาเป็น 15% ได้ค่ะ
..
..
..
เลือดที่เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน จะเป็นเพียงหยดเลือดซึม หรือเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัยค่ะ อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ และในกรณีที่พบ อาจเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หรือเป็นอยู่นาน 2 - 4 วันก็ได้เช่นกัน
ส่วนประจำเดือนปกติ ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ ซึ่งยาคุมฉุกเฉินไม่มีผลเร่งประจำเดือนค่ะ ส่วนใหญ่ของผู้ใช้ที่ไม่ตั้งครรภ์ จะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม หรืออาจคลาดเคลื่อน (เร็วหรือช้าก็ได้) ไม่เกิน 4 วันนะคะ
ดังนั้น หากผู้ถามมีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัย ทั้งที่ห่างจากประจำเดือนรอบล่าสุดประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ถือว่าผิดปกตินะคะ และแม้จะไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย แต่ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งคุณหมอจะได้พิจารณาการรักษาที่เหมาะสม และป้องกันไม่ให้มีการเสียเลือดมากจนเกินไปด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หลังการรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีอาการเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือนได้โดยเฉพาะในช่วงหลังจากรับประทานยาไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์ครับ
.
ถ้าหากเลือดที่ออกมานั้นออกมาในปริมาณเพียงเล็กน้อยก็อาจเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินเท่านั้น แต่ถ้าหากเลือดออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก ออกมาติดต่อกันหลายวันหมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการให้แน่ใจก่อนว่าเลือดที่ออกมาไม่ได้เกิดจากความผิดปกติอื่นครับ
ส่วนโอกาสตั้งครรภ์หลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วจะมีได้อยู่ที่ประมาณ 15-25% ครับ เพียงแต่ว่าการมีเลือดออกมาในลักษณะนี้ก็ไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่
ในกรณีนี้หมอแนะนำให้รอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อน ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คือประจำเดือนมาวันที่ 08/08/62 มีอะไรกับแฟนเมื่อวันที่ 19/08/62 ป้องกันแต่ไม่แน่ใจว่าถุงรั่วหรือขาดหรือป่าว เลยซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน หลังจากกินได้5วัน ก็มีเลือดออกเป็นสีน้ำตาลมีคล้ายๆเยื่อ ตอนเย็นมีเลือดคล้ายประจำเดือน มามากและหลายวันแต่ประจำเดือนหมดไปเมื่อวันที่ 13/08/62 อยากทราบว่าเลือดที่ออกมาคือเลือดอะไร แล้วมีโอกาสท้องไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)