April 21, 2017 13:41
ตอบโดย
ชยากร พงษ์พยัคเลิศ (นพ.)
น้ำวุ้นตาเสื่อมและหดตัว (Vitreous syneresis) แรกเกิดน้ำวุ้นจะหนืดจากการรวม ตัวของสาร Collagen ของ Protein และสารอื่นๆที่ไม่ใช่ส่วนที่เป็นน้ำ แต่เป็นส่วนเป็นเส้นใยบางๆ ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้น ส่วนที่เป็นเส้นใยจะจับตัวกันหนาขึ้น ร่วมกับมีการหดตัวของน้ำวุ้นตาที่เหลือ จึงทำให้เส้นใยดังกล่าวมีขนาดใหญ่ และเห็นชัดขึ้น ลอยไปมา โดยพบมากในผู้สูงอายุ ซึ่งเส้นใยเหล่านี้ หากเกิดขึ้นและลอยอยู่บริเวณขอบๆของดวงตา เจ้าตัวจะไม่มีอาการ แต่หากเส้นใยเหล่านี้มาอยู่บริเวณตรงกลางดวงตา ที่แสงผ่านเข้าจอตา เจ้าตัวจึงจะเกิดอาการขึ้น สำหรับการรักษาโรควุ้นในตาเสื่อมนั้น ปัจจุบันนั้นไม่สามารถรักษาให้หายได้ เพราะมันเกิดจากความเสื่อมของอวัยวะเราเอง เรียกว่าเป็นไปตามอายุ แต่ยังพอสามารถรักษาอาการข้างเคียงของโรคนี้ได้บ้าง คือถ้าจอประสาทตาฉีกขาดให้รีบไปพบจักษุแพทย์ จะใช้เลเซอร์ซ่อมแซมรอยขาดให้ปิดสนิท ก็ทำให้ยังมีดวงตาไว้ถนอมใช้ได้อีกนานครับ ส่วนการป้องกันโรควุ้นในตาเสื่อมมีดังนี้ครับ
1.ป้องกันไม่ให้ดวงตาได้รับการกระทบกระเทือน ทั้งจากการเล่นกีฬา จากอุบัติเหตุ และอื่น ๆ เพราะการที่ตาถูกกระแทกแรง ๆ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้วุ้นในตาเสื่อมได้เร็วขึ้น
2.อย่าอ่านหนังสือในที่มืด เพราะจะทำให้สายตาสั้น สายตาสั้นจะทำให้วุ้นในลูกตาเสื่อมง่าย
3.อย่านอนในที่สว่าง เพราะแม้ร่างกายจะหลับ แต่ลูกตาเมื่อได้รับแสงก็ยังทำงานอยู่ เมื่อลูกตาทำงานหนัก วุ้นก็จะเสื่อมได้ง่าย
4.ถ้าคุณอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรจะไปพบจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพราะหากมีอาการแพทย์จะดูแลคุณ ในระยะแรกได้เลย
5. พยายามอย่าเครียด นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าให้ดีไม่เกิน 4 ทุ่ม หรือ อย่างมากเที่ยงคืน
6. พยายาม อย่าหันหน้า เร็วๆ ให้ทำ อะไรช้าๆ ลงบ้าง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วลีรักษ์ จันทร (พว.)
วุ้นตาเสื่อมมีสาเหตุจาก
1.น้ำวุ้นตาเสื่อมและหดตัวแรกเกิดน้ำวุ้นจะหนืดจากการรวม ตัวของสาร Collagen ของ Protein และสารอื่นๆที่ไม่ใช่ส่วนที่เป็นน้ำ แต่เป็นส่วนเป็นเส้นใยบางๆ ซึ่งเมื่ออายุมากขึ้น ส่วนที่เป็นเส้นใยจะจับตัวกันหนาขึ้น ร่วมกับมีการหดตัวของน้ำวุ้นตาที่เหลือ จึงทำให้เส้นใยดังกล่าวมีขนาดใหญ่ และเห็นชัดขึ้น ลอยไปมา โดยพบมากในผู้สูงอายุ กล่าวกันว่า พบได้กว่า 50% ของคนอายุมากกว่า 70 ปี ของคนสายตาสั้นมากๆ และของผู้ที่เคยได้รับอุบัติเหตุทางดวงตา ซึ่งเส้นใยเหล่านี้ หากเกิดขึ้นและลอยอยู่บริเวณขอบๆของดวงตา เจ้าตัวจะไม่มีอาการ แต่หากเส้นใยเหล่านี้มาอยู่บริเวณตรงกลางดวงตา ที่แสงผ่านเข้าจอตา เจ้าตัวจึงจะเกิดอาการขึ้น
2.ในภาวะปกติ น้ำวุ้นตานาบอยู่กับจอตาอย่างหลวมๆ แต่ส่วนหลังสุดที่อยู่รอบๆจาน /ขั้วประสาทตา (Optic disc) จะนาบแน่นกว่าบริเวณอื่น เมื่อน้ำวุ้นเสื่อม จะมีบางส่วนกลายเป็นน้ำใสๆ ส่วนที่หนืดเป็นใยรวมตัวกัน ดึงน้ำวุ้นที่เกาะที่ขั้วประสาทตาหลุดออกมา แล้วน้ำวุ้นที่ใสเป็นน้ำจะเข้าไปแทนที่ ทำให้เกิดภาวะที่เรียกกันว่า PVD (Posterior vitreous detachment) ทำให้เจ้าตัวอาจเห็นเป็นวงลอยไปมาได้
3.ในการพัฒนาของการเกิดลูกตาคนเราตั้งแต่อยู่ในครรภ์นั้น ภายในน้ำวุ้นตามีหลอดเลือดที่เรียกว่า Hyaloid artery หลอดเลือดนี้ต้องหดหายไปก่อนเด็กคลอด แต่ในบางคน การหดหายของหลอดเลือดไม่สมบูรณ์ ทำให้เด็กที่เกิดมาอาจยังมีติ่งของหลอดเลือดนี้หลงเหลืออยู่ ซึ่งภายในหลอดเลือดมีเม็ดเลือดแดง จึงอาจหลุดออกมาในวุ้นตาได้
4.อาจมีสารเคมีบางตัวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเส้นใย Synchysis scintillans ในน้ำวุ้น เกิดเป็นผลึกของแคลเซียม (Asteroid hyalosis) หรือของไขมันคอเลสเตอรอล/Cholesterol ลอยไปมาในน้ำวุ้นได้
5.มีรายงานว่าการใช้ยาบางตัวอาจก่อให้เกิดน้ำวุ้นตาเสื่อมตกตะกอนได้ เช่น Zovi rax (ยารักษาโรคเริม โรคงูสวัด และโรคอีสุกอีใส) อาจทำให้เกิดน้ำวุ้นตาเสื่อมตกตะกอนได้
6.ยังมีตะกอนที่เกิดจากสาเหตุต่างๆอีก แต่พบได้น้อยกว่า 5 ข้อแรก เช่น อาจมีเซลล์ต่างๆ ได้แก่ เม็ดเลือดแดงที่มาจากหลอดเลือดที่จอตาฉีกขาด หลอดเลือดที่ผิดปกติในผู้ป่วย เบาหวานขึ้นตา (Diabetic retinopathy) ในผู้ป่วยจอตาเสื่อม (Age related macular degeneration) ตลอดจนเม็ดเลือดขาวที่มาจากการอักเสบภายในดวงตาทั้งจากโรคม่านตาอัก เสบ การอักเสบภายในดวงตา (Endophthalmitis) การอักเสบจากอุบัติเหตุมีบาดแผลทำให้ดวงตาทะลุ นอกจากนี้อาจมีอณูสีเล็กๆ (Pigmented granule) ที่มาจากอณูสีในเนื้อเยื่อชั้นของจอตา หรือแม้แต่เซลล์มะเร็งที่หลุดมาจากมะเร็งตาในเด็ก/มะเร็งจอตา (Retinoblastoma) ฯลฯ
การป้องกันวุ้นในตาเสื่อม
1.แนะนำใช้ยาประเภทบำรุงร่างกายเป็นวิตามิน/อาหารประเภทสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ (Antioxidant) แต่ยังไม่มีการพิสูจน์แน่ชัดว่าได้ผลจริง โดยทั่วไปการรับ ประทานอาหารครบทุกหมู่ (อาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ในปริมาณเหมาะสมที่ไม่ทำให้เกิดโรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน) นำมาซึ่งร่างกายแข็งแรงน่าจะเพียงพอ
2.ไม่สูบบุหรี่ งด/เลิกบุหรี่เมื่อสูบอยู่
3.มีการออกกำลังกายที่พอดีกับสุขภาพสม่ำเสมอ
4.หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุต่างๆที่จะส่งผลถึงดวงตา
5.หากมีโรคทางกายเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง ต้องควบคุมให้ดี
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สงสัยค่ะว่า จะป้องกันโรควุ้นในตาเสื่อมได้อย่างไร และโรคนี้มีสาเหตุมาจากอะไรหรือคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)