มีประจำเดือนปกติวันที่ 20/9-24/9 ค่ะหลังจากนั้นมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 29/9 ค่ะแต่ไม่แน่ใจว่าถุงยางหลุดหรือป่าวเลยกินยาคุมฉุกเฉินกันไว้ค่ะ หลังจากนั้นประจำเดือนมาวันที่6/10-10/10ค่ะและมีเพศสัมพันธ์ในวันที่17/10(6รอบค่ะมีทั้งการใช้นิ้วและสอดใส่)พอวันที่18มีเลือดออกเล็กน้อยพอเปื้อนกางเกงในค่ะเลือดสีชมพูจางๆและมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วยค่ะ(มีเป็นช่วงๆค่ะ)จนวันนี้วันที่ 27 ยังมีเลือดออกเล็กน้อยอยู่ค่ะ อยากทราบว่าเป็นอะไรหรือป่าวคะ

สวัสดีครับ
การมีอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดในปริมาณเล็กน้อยติดต่อกันเป็นเวลานานหลายวันนั้นอทจเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย
- การมีแผลในช่องคลอดจากการบาดเจ็บหลังมีเพศสัมพันธ์
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- การมีเนื้องอกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใน

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจภาวะประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ และนอกจากนี้หมอก็แนะนำว่าควรมีการตรวจกานตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจด้วยเนื่องจากอาการเลือดออกผิดปกตินี้ก็อาจเป็นอาการจากภาวะแทรกซ้อนบางอย่างในกรณีที่มีการตั้งครรภ์ได้ครับ

สาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดนั้น อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่นการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การอักเสบของช่องคลอดและมดลูก จากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง ซึ่งทำไปสู่การติดเชื้อได้เช่นกัน ติ่งเนื้อบริเวณปากมดลูก เป็นต้น

การมีเพศสัมพันธ์ของคนไข้นั้น ยังมีการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่เหมาะสมซึ่งอาจทำให้เกิดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้ ฉะนั้นควรตรวจการตั้งครรภ์ภายหลังมีความเสี่ยงประมาณ14วัน โดยสามารถตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะเบื้องต้นได้ครับ
และควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด โดยเฉพาะหากมีตกขาวผิดปกติ ปวดท้องน้อย ปัสสาวะแสบขัด ควรรีบไปพบแพทย์ด่วน เนื่องจากอาจเกิดได้จากการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ครับ

ถ้าหากมีการใส่ถุงยางอนามัยตลอดการมีเพศสัมพันธ์และใส่ถุงยางอนามัยได้อย่างถูกต้อง โอกาสที่จะตั้งครรภ์ก็จะมีเพียง 2% เท่านั้นครับ