August 27, 2019 14:53
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
กรณีนี้เเนะนำให้ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกครับ
ปกติถ้าอายุน้อยความเสี่ยงต่ำมากครับ เเต่ถ้ากังวลเเนะนำปรึกษาสูตินรีเเพทย์ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกครับ ส่วนใหญ่ตรวจปีละครั้งครับ เเละมะเร็งชนิดนี้ โตช้าครับ หมายความว่าต่อให้เป็นจริงๆใช้เวลาเป็นปีปีกว่าจะลุกลาม ถ้าตรวจทุกปีไม่ต้องกังวลครับ
กรณีที่มีเพศสัมพันธ์ตั้งเเต่อายุน้อยก็ให้พิจารณาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap smear) ครับ
(ทำในผู้หญิงทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป หรือ 3 ปีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ขึ้นกับว่าเวลาใดถึงก่อน ควรเริ่มทำการตรวจแปปสเมียร์ หลังจากนั้นทำการตรวจทุก 1-2 ปี)
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกควรเริ่มเมื่ออายุ21ปี โดยแบ่งตามกลุ่มอายุ ดังนี้
อายุน้อยกว่า 21 ปี ไม่ว่าจะเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุเท่าไร หรือมีปัจจัยเสียงมาก ก็ยังไม่ควรตรวจคัดกรอง เนื่องจากเชื้อมะเร็งปากมดลูกพบได้น้อย และยังสามารถหายได้เองภายใน1-2ปี
อายุ 21-29 ปี แนะนำให้ตรวจคัดกรองโดยวิธี cytology เพียงอย่างเดียวทุก3ปี โดยไม่มีความจำเป็นต้องตรวจ HPV testing
อายุ 30-65 ปีสามารถตรวจคัดกรองได้ 2 วิธี คือ
pap smear ร่วมกับ HPV testing หรือ ตรวจร่วมกันทุก5ปี
ถ้าpap smear อย่างเดียว ทุก3ปี
อายุ 65 ปีขึ้นไป สามารถหยุดการตรวจคัดกรองได้ ในกรณีที่ ผลPap smear ปกติ 3ครั้งติดต่อกัน แต่ในกรณีที่เคยมีประวัติมีความผิดปกติจากการตรวจคัดกรองมาก่อน(CIN2,CIN3,AIS) ควรทำการตรวจคัดกรองต่ออย่างน้อย20ปีครับ
เรื่องหูดหงอนไก่
อาการ คือ จะมีความผิดปกติบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ และบริเวณทวารหนัก
โดยจะมีลักษณะเป็น ก้อนขรุขระ ลักษณะคล้ายหงอนไก่ \ดอกกะหล่ำ เลยเรียกกันว่า"หูดหงอนไก่"
โดยทั่วไปแล้ว ตุ่มเล็กๆนี้จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพด้านอื่นๆ แต่บางครั้งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและอาการคัน
บางครั้ง หูดหงอนไก่ที่เห็นชัดเจนสามารถหายเองได้ถ้าหากร่างกายประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส HPV แต่อาจยังเหลือรอยโรคอยู่บ้างหรือมีขนาดของหูดที่ใหญ่ขึ้นหรือตัวหูดอาจมีการเพิ่มจำนวนครับ
..........
การรักษาโรคนี้ต้องรักษาโดยการจี้หูดด้วยยา Podophyllin หรือยา trichloroacetic acid(TCA) ที่ความเข้มต่าง ๆ จะต้องจี้ยาต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง โดยหากรอยโรคอยู่ลึกมาก การจี้ยาด้วยตัวเองอาจจะมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก เช่น การแสบร้อนจากยาที่ใช้จี้ ควรรับการรักษาโดยแพทย์ครับ หากการใช้ยาจี้เเล้วไม่ดีขึ้นหรือรอยโรคมีหลายที่\มีปริมาณมาก อาจจะใช้เป็นการจี้ไฟฟ้า ครับ
หลังรักษาหายมีโอกาสเป็นซ้ำได้ครับ
..........
หูดหงอนไก่ นั้นเกิดมาจากเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ 6 เเละ 11
ติดต่อมาจากการมีเพศสัมพันธ์ุ
เเม้จะป้องกันโดยการสวมถุงยางอนามัย
ก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100%ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คุณหมอค่ะ แล้วร่างกายสามารถกำจัดได้ไหมค่ะ ถ้ายังมีเพศสัมพันธ์ทุกวันแบบไม่ป้องกันแบบนี้ จะเป็นการติดกันไปติดกันมารึเปล่าค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วร่างกายจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ HPV ขึ้นได้แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถสร้างได้ 100% ครับ
.
ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อ HPV อยู่หมอก็แนะนำว่าควรมีการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งและควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายในคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปีครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ดิฉันอยากทราบว่าถ้ามีเพศสัมพันธ์กับแฟนที่มีเชื้อ hpv ด้วยกันทั้งคู่ทุกวัน โดยที่ไม่สวมถุงยางอนามัย ร่างกายจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันมากำจัดเชื้อ hpv ออกจากร่างกายได้เองไหมค่ะ (ผู้หญิงเคยเป็นหูด รักษาโดยการจี้ยา ผู้ชายไม่เคยมีอาการอะไร)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)