สิ่งที่คุณต้องทำก่อน ระหว่าง และหลังจากตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแล้ว
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (pap smear) เป็นการตรวจหาเซลล์ที่กำลังจะกลายเป็นมะเร็ง หรือเซลล์มะเร็งที่ปากมดลูก (ปากทางเข้าของมดลูก) ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดสำหรับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก อย่างไรก็ตาม ผลของการตรวจขึ้นกับความเที่ยงตรงเป็นอย่างมาก ดังนั้นมาดูกันว่าคุณสามารถช่วยอะไรได้บ้างเพื่อให้ผลการตรวจของคุณถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ต่อไปนี้เป็นข้อผิดพลาดของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ผู้หญิงมันทำเป็นประจำ และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของการตรวจได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
1. ไม่ได้รับการตรวจคัดกรองสม่ำเสมอ
การรับการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากสำหรับการป้องกันมะเร็งปากมดลูก การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกสามารถตรวจพบความผิดปกติของปากมดลูกได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็ง หากคุณมีอายุระหว่าง 21 และ 65 ปี คุณควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกสามปี
2. การมีเพศสัมพันธ์ การสวนล้าง หรือการใช้ยาเหน็บช่องคลอดในช่วงเวลา 24-48 ชั่วโมงก่อนการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
หลักการง่ายๆ คือไม่ควรมีอะไรก็ตามในช่องคลอดของคุณภายในเวลา 24-48 ชั่วโมงก่อนการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เนื่องจากอาจบดบังเซลล์ผิดปกติ ทำให้ผลการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกไม่แม่นยำ
หากคุณมีเพศสัมพันธ์ สวนล้าง หรือใช้ยาเหน็บช่องคลอดก่อนจะมาตรวจ ให้พยายามเลื่อนนัด แต่หากทำไม่ได้ ให้แจ้งแพทย์ก่อนจะทำการตรวจ
3. การนัดตรวจในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมของรอบเดือน
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดต่อการตรวจคัดกรองคือ 10-20 วันหลังจากวันแรกของการมีประจำเดือน ในทางทฤษฎีแล้ว คุณไม่ควรนัดตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในขณะที่กำลังมีประจำเดือน เลือดประจำเดือนและน้ำจะทำให้ตรวจพบเซลล์ผิดปกติได้ยากขึ้น มีโอกาสทำให้ได้ผลการตรวจที่ไม่แม่นยำได้ คุณอาจรับการตรวจหากมีเลือดประจำเดือนออกน้อยแล้วได้ ปรึกษาแพทย์ทุกครั้งที่ได้รับการนัดหมายให้ตรวจคัดกรองตรงกับขณะกำลังมีประจำเดือน เนื่องจากแพทย์อาจต้องการให้นัดใหม่
4. ไม่รู้ว่าจะได้รับผลตรวจได้อย่างไร
ถามแพทย์หรือผู้ช่วยเสมอว่าคุณจะได้รับผลการตรวจอย่างไร คลินิกหลายแห่งจะส่งผลการตรวจที่ปกติผ่านทางจดหมาย แต่สำหรับผลตรวจผิดปกติจะแจ้งทางโทรศัพท์ แพทย์บางคนอาจไม่ได้ติดต่อไปเลยหากผลตรวจเป็นปกติ
5. เพิกเฉยไม่บอกแพทย์ว่าเคยมีผลตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่ผิดปกติก่อนหน้านี้
แพทย์ต้องการทราบว่าคุณเคยมีผลการตรวจที่ผิดปกติมาก่อนหรือเปล่า ซึ่งควรแจ้งผลการตรวจอย่างละเอียดและการตรวจเพิ่มเติมต่อมาด้วย ควรแจ้งแพทย์โดยเฉพาะหากได้รับการส่องกล้องตรวจด้วยคอลโปสโคป (colposcopy) ตัดชิ้นเนื้อ หรือการรักษาใดๆ ที่สืบเนื่องมาจากผลการตรวจที่ผิดปกติ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หากคุณมีสำเนาของผลการตรวจคัดกรอง ผลการส่องกล้อง ผลชิ้นเนื้อ หรือการรักษาใดๆ ก่อนหน้า ควรนำมาพบแพทย์ด้วย
6. ไม่ทำตามคำแนะนำของแพทย์หลังจากทราบว่าผลการตรวจผิดปกติ
เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์หากผลการตรวจผิดปกติ ซึ่งอาจต้องตรวจซ้ำ หรือหรือตรวจส่องกล้อง การตรวจติดตามมีได้หลายวิธี ขึ้นกับผลการตรวจ
คลินิกจะทำการนัดหมายการตรวจให้ใหม่หากคุณต้องทำการตรวจคัดกรองซ้ำ หรือต้องตรวจส่องกล้อง (หากแพทย์ของคุณทำการตรวจส่องกล้องด้วย) หรืออาจส่งตัวคุณไปรับการรักษาต่อกับแพทย์สูตินรีเวชที่ทำการตรวจส่องกล้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
รู้ก่อนตรวจมะเร็งปากมดลูก