ขอสอบถาม​คุณหมอ​ค่ะ หนูอายุ22ปี​ กำลังเรียนอยุ่ค่ะ​ หนูมีแฟนแล้วและเคยมีเพศ​สัมพันธ์​กัน​ ไม่ได้สวมถุงยางอนามัย​ค่ะ​ หลังจากมีเพศ​สัมพันธ์​กัน​ หนูมีอาการตกขาวสีเหลืองๆ​ ออกสีน้ำตาล​ ปนเลือดนิดหน่อย​ บางวันก็อเป็นเมือกใสมีปนเลือดนิดหน่อย​ มีกลิ่นคาวค่ะแต่ไม่มีอาการปวดท้องน้อย​หรือปวดแสบ หรือคันเลยนะคะ​ ตอนเช้าจะมีกลิ่นคาวแรงมากหลังจากตื่นนอน​ และตกขาวจะเป็นสีน้ำตาลไม่ปนเลือดค่ะ ประจำเดือน​หนูจะมาประมานวันที่6-8 ค่ะ​ แต่เดือนนี้มาวันที่​ 6 ตค​ อีกอย่างค่ะช่วงนี้หนูสอบ​ จะนอนดึกและเครียดบ้างค่ะ​ อยากถามคุณหมอ​ว่าหนูมีอาการเบื้องต้นน่าจะเป็นโรคอะไรร้ายแรงไหมคะ​ ขอบพระคุณ​คุณ​หมอ​มาก​ๆ​ค่ะ

สวัสดีครับ
การที่ตกขาวมีการเปลี่ยนไปเป็นสีเหลืองแบะมีสีน้ำตาบปนหลังการมีเพศสัมพันธ์นั้นอาจเกิดได้จากการติดเชื้อบางอย่างในช่องคลอดครับ เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไป รวมถึงจากโรคหนองในหรือการติดเชื้อทริโคโมแนสซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ และในระหว่างนี้ก็ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน รวมถึงถ้าตรวจแล้วพบว่าเป็นโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ก็ควรให้แฟนไปพบแพทย์เพื่อรักษาเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำในครั้งต่อไปด้วยครับ

การมีตกขาวในลักษณะนี้ไม่ใช่อาการที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ครับ

อาการแรกที่จะเกิดขึ้นในกรณีที่มีการตั้งครรภ์คือการขาดประจำเดือน ซึ่งประจำเดือนที่มาในวันที่ 6 ตุลาคมนั้นหมอไม่แน่ใจว่าเปประจำเดือนที่เกิดก่อนหรือหลังการมีเพศสัมพันธ์นะครับ

ถ้าหากเป็นประจำเดือนที่มาหลังการมีเพศสัมพันธ์ก็จะเป็นการยืนยันได้แล้วว่าไม่มีการตั้งครรภ์ครับ

แต่ถ้าหากหลังมีเพศสัมพันธ์ยังไม่มีประจำเดือนมาเลยก็สามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูให้แน่ใจได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ