อยากทราบว่าหากเราเคยเป็นโรคเริมที่ริมฝีปากแล้วจูบกับแฟน แต่ขณะนั้นเราไม่ได้แสดงอาการเริมที่ริมฝีปากและแฟนไม่มีแผลที่ริมฝีปาก แต่ไม่กี่วันต่อมาแฟนก็เป็นเริมที่ริมฝีปาก แต่ช่วงเวลาดัวกล่าวแฟนค่อนข้างพักผ่อนน้อย ดื่มน้ำน้อย และ เครียด อยากทราบว่าแฟนได้รับเชื้อไวรัสนี้จากเราหรือเปล่า

เป็นไปได้ค่ะ โรคเริมที่ปากเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเฮอร์ปีส์ซิมเพ­­ลกซ์ (Herpes simplex virus) ซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้แบ่งออกเป็น 2 ชนิดได้แก่ Herpes simplex Type 1 และ Herpes simplex Type 2 โดยไวรัสทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถก่อให้เกิดตุ่มน้ำใส ๆ ได้ทั้งบริเวณรอยต่อระหว่างริมฝีปากกับผิวหนัง และอวัยวะเพศค่ะ เริมที่ปากเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่อยู่ในน้ำลาย น้ำเหลือง หรืออสุจิ โดยเชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายได้ทางผิวหนังบริเวณที่มีรอยถลอก­­­­หรือแผลหรือผ่านทางเยื่อเมือกเช่นเยื่อบุที่ปาก
โดยเมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายแล้ว เชื้อจะเข้าไปอยู่ในเซลล์ผิวหนังชั้นล่าง บางครั้งก็อาจจะไม่มีอาการแสดงให้เห็น และบางรายเชื้อไวรัสแบ่งตัวและทำลายเซลล์ผิวหนังทำให้เกิด­­­­เป็นตุ่มน้ำใสๆ มีอาการปวดแสบปวดร้อน เมื่อตุ่มน้ำแตกแล้วก็จะเกิดเป็นสะเก็ดและหายไ­­­­ปโดยไม่มีแผลเป็นใดๆ เริมที่ปากสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ ในกรณีที่ร่างกายอ่อนแอลง เช่นการมีความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือระดับภูมิคุ้มกันที่ลดลงค่ะ

สวัสดีครับ ถ้าหากแฟนของคุณไม่ได้ไปจูบหรือรับเชื้อมาจากผู้อื่นก็น่าจะมาจากของคุณเองครับ บางครั้งุคณอาจจะอยู่ในระยะแพร่เชื้อแม้จะไม่มีอาการแสดงให้เห็นก็ตามครับ และการที่ร่างกายพักผ่อนน้อย หรือมีภูมิคุ้มกันต่ำลง ก็จะทำให้เชื้อตัวนี้ที่หลบซ่อนในปมประสาทสามารถออกมาหรือกำเริบซ้ำได้ครับ