April 01, 2018 12:17

คำถามด่วน

สอบถามคุณหมอค่ะ เป็นประจำเดือนวันแรกวันที่ 23 มี.ค. เป็นประจำเดือนวันสุดท้ายวันที่ 28 มี.ค. วันที่ 28 มี.ค. เวลาประมาณ 06:00น. มีเพศสัมธ์แบบไม่ได้ป้องกันและหลั่งใน หลังจากนั้นประมาณ 6 ชม เวลาประมาณ 11:40 น. ได้ไปซื้อยาคุมฉุกเฉินแบเม็ดเดียวมากิน วันที่ 30 มี.ค. มีอาการหงุดหงิดคล้ายอาการก่อนมีประจำเดือน วันที่ 31 มี.ค. เวลาประมาณ 23:00 น. มีเลือดออกมาจากช่องคลอดแต่ปริมาณไม่เยอะเท่ามีประจำเดือนปกติและไม่ได้มาตลอดเวลา อยากทราบว่าเลือดนี้ใช่ประจำเดือนหรือไม่หรือเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน และในคืนที่31 มี.ค. คืนเดียวกัน เวลา 00.00 น. ได้มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันและหลั่งในอีกรอบ หลังจากนั้นเป็นเวลาประมาณ 4 ชม. 04:00 น. ได้ไปซื้อยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมากินอีกรอบ อยากทราบถึงผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น และโอกาสในการตั้งครรภ์ค่ะ ขอบคุณค่ะ

ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)

ดูคำถามและคำตอบอื่นที่คล้ายกัน
ขออนุญาติถามคร่ะ...รกต่ำแต่ไม่มีเลือดออกมีสิทธิแท้งหรือคลอดก่อนกำหนดไมคร่ะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
ตั้งแต่เราคลอดลูกเราฉีดยาคุมแล้วประจำเดือนไม่มาเลยตั้งแต่เกิดลูกแล้วเราจะรู้ได้ไงว่าเราท้อง
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
กำลังตั้งครรภ์อยู่คะ จำเป็นไหมที่จะต้องกินทั้งนมวัวและนมถั่วเหลือง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกในครรภ์แพ้ถ้่วเหลือหรือแพ้นมวัวคะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
ตอนนี้ตั้งครรภ์อยู่ค่ะ ถ้ามีอาการท้องเสียจะทานยาธาตุได้หรือไม่คะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
ทำหมันแล้วทำให้ประจำเดือนหมดไป เป็นบางคนรึว่าทุกคนคะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)
อยากมีบุตรต้องวางแผนอย่างไรบ้างคะ
คำถามนี้ได้การตอบจากแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา)