ทานยาคุมแบบทั่วไปแล้วมีเลือดออกมีเพศสัมพันธ์แล้วปล่อยในท้องมั้ยค่ะ

โอกาสตั้งครรภ์จะมากหรือน้อย ไม่ได้ขึ้นกับว่าใช้ยาคุมแล้วมีเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยาหรือไม่นะคะ แต่ขึ้นกับว่าวันที่ผู้ถามมีเพศสัมพันธ์นั้นมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมแผงนั้นแล้วหรือยัง

นั่นคือ ถ้าใช้ยาคุมแผงแรก ในกรณีทั่วไปจะถือว่าเมื่อใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย (แต่ควรรอให้ประจำเดือนหายดีก่อนเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในช่องคลอดและอุ้งเชิงกราน)

แต่ถ้าใช้ยาคุมแผงแรกไม่ทัน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องงดมีเพศสัมพันธ์ หรือต้องใช้ถุงยางอนามัยป้องกันไปก่อนในช่วงที่ยังใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันยังไม่ครบ 7 วันนะคะ มิฉะนั้นก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงค่ะ

ส่วนการใช้ยาคุมต่อเนื่อง หากต่อยาคุมตรงตามกำหนด ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องทุกวัน จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ (ในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน)

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือนแล้ว ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% หรือค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ถ้ารับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอค่ะ

สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมในช่วง 1-3 แผงแรกนั้นจะมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือนได้ และผลข้างเคียงนี้ก็ไม่ได้เป็นการบ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ครับ

โอกาสตั้งครรภ์ในการมีเพศสัมพันธ์จะมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับว่ายาคุมที่รับประทานอยู่ออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่แล้วหรือยัง
- ถ้าหากเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาคุมก็จะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่วันแรกที่รับประทาน
- ถ้าหากเริ่มรับประทานยาคุมช้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันอย่างน้อย 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้

ถ้าหากยาคุมออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่แล้วการมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยา แต่ถ้าหากยาคุมยังออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้สูงครับ