November 15, 2019 13:29
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากมีปัญหากระดูกสันหลังทรุดมาก่อนและกำลังรักษาโรค SLE อยู่ก็จะบรรเทาอาการปวดหลังลงได้ยากครับ เนื่องจากปัญหาจากกระดูกสันหลังที่ทรุดไปกดทับเส้นประสาทอยู่เดิมนั้นก็จะมีผลทำให้มีอาการปวดตามหลังร้าวลงมาตามสะโพกและขาได้อยู่แล้ว และการรับประทานยาเพื่อรักษาโรค SLE เองก็จะมีส่วนทำให้เกิดปัญหากระดูกพรุนและมีกระดูกสันหลังทรุดมากขึ้นได้
การรักษาในกรณีนี้จึงมักต้องเป็นการรักษาประคับประคองให้มีอาการปวดน้อยที่สุดและสามารถอยู่ร่วมกับอาการปวดได้ โดยการรักษานั้นก็สามารถทำได้หลายวิธีครับ เช่น
- การรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการปวด
- การทำกายภาพบำบัดบำบัด
- การฝังเข็ม
- การทำอัลตราซาวด์
ซึ่งก็สามารถปรึกษาเกี่ยวกับทางเลือกในการรักษาเพิ่มเติมจากทางแพทย์กายภาพบำบัดได้ครับ
นอกจากนี้ก็ยังมีการรักษาด้วยการทำจิตบำบัดแบบ CBT ที่จะช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนวิธีการคิดและการใช้ชีวิตให้อยู่ร่วมกับอาการปวดได้ดีขึ้น ซึ่งก็สามารถปรึกษาจิตแพทย์เกี่ยวกับทางเลือกในการรักษานี้ดูได้ครับ
ทั้งนี้ก็ควรมีการปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมกระดูกเพื่อตรวจประเมินอาการด้วยว่ามีกระดูกสันหลังที่ทรุดมากขึ้นที่จำเป็นต้องได้รับการผ่าจัดหรือไม่ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีครับคุณป้าผมอายุ 50 ปี เดิมมีโรคประจำตัวเบาหวาน และมีหลอดเลือดหัวใจตีบ 3 เส้นตอนนี้ทำบอลลูนไปแล้ว 2 เส้นอาการปกติดี แต่ปัญหาตอนนี้คือเป็นโรคเอสแอลอี สองปีที่แล้วไปยกของแล้วกระดูกสันหลังทรุดหมอนรองกระดูกไปกดเส้นประสาทต้องผ่าดามเหล็กตอนนี้อาการปกติ แต่ที่ผิดปกติคือตอนนี้ปวดสะโพกทั้งสองข้างมากปวดในทุกๆท่าตอนนอนต้องเอามือกดไม่งั้นนอนไม่ได้ สงสัยว่าเส้นเลือดที่เลี้ยงข้อสะโพกว่าผิดปกติก็ไปตรวจ mri แล้วปกติ คุณหมอเอสแอลอีบอกว่าอาการปวดรักษาไม่ได้ เคยกิน ยาไลลีก้า แต่กินแล้วไม่ดีขึ้นตอนนี้กินยาเพนนิสเทอร์โลนอยู่ครับ ไปทำกายภาพทุกอย่างแล้วก็ไม่ดีขึ้นทรมานมากควรทำอย่างไรดีครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)