หมอคะ ดิฉันมี พสพ.กับแฟน แต่ถุงยางแตก หลั่งนอก ไม่แน่ใจว่าอยู่ในช่วงตกไข่รึป่าว ปจด.มา 4พย.-8พย. (ไม่สม่ำเสมอนะคะ) กินยาคุมฉุกเฉิน 1-2ชม.หลังมี พสพ. อยากทราบว่ามีโอกาสที่จะท้องมากน้อยเพียงใดคะ

ถ้าเดิมรอบเดือนประมาณ28วัน สม่ำเสมอตลอด เเล้วมีเพศสัมพันธ์วันนี้นั้น มีโอกาสเป็นช่วงตกไข่ เเต่เนื่องจากกินยาคุมฉุกเฉินไปเร็ว ก็ลดโอกาสท้องไปเยอะครับ
รับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85%
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ประมาณภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งมักไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ ไม่ได้บอกว่าท้องหรือไม่ท้องครับ)
ส่วนประจำเดือนจริงๆจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา ก็มีโอกาสหลุดท้อง ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยาคุมฉุกเฉิน หากต้องการรีบตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ระหว่างรอประจำเดือนจริงๆมา ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางอนามัยไปก่อนครับ

การใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองเมื่อถุงยางฉีกขาด ถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมแล้วนะคะ และหากผู้ถามใช้ครบขนาดก็อาจช่วยลดความเสี่ยงที่มี ให้เหลือเป็น 15% แทนได้ค่ะ

ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนของผู้ถามควรจะมาตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มาก ดังนั้น แนะนำให้รอดูต่อไปนะคะ แต่ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังรับประทานหรือเปล่า เพราะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ไม่ได้สำคัญอะไร

ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ โดยเฉพาะถ้ามีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอซึ่งทำให้คาดการณ์ได้ยาก ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากมีถุงยางอนามัยฉีกขาดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้สูงครับ แต่ถ้าหากได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปในเวลาเกือบทันทีแล้วก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได่เพียง 15% เท่านั้นครับ

หลังจากนี้หมอแนะนำให้รอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อน ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

การที่ไม่มีผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินเกิดขึ้นไม่ได้เป็นการบ่งบอกว่ายาจะไม่ออกฤทธิ์ครับ เพราะผลข้างเคียงขากยาคุมฉุกเฉินนั้นไม่จำเป็นต้องเกิดกับคนทุกคนครับ

ถ้ารับประทานครบขนาด และไม่ได้อาเจียนภายใน 2 ชั่วโมงหลังรับประทานยา ก็ถือว่ายาคุมมีการดูดซึมและออกฤทธิ์ได้ค่ะ

ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดตึงเต้านม ไม่สบายท้อง หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอย อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้นะคะ ไม่ได้สำคัญอะไร

นั่นคือ การที่ไม่มีผลข้างเคียงจากยา ไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่ายาคุมไม่มีประสิทธิภาพ และไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ค่ะ

คงไม่อาจระบุได้หรอกค่ะว่าไข่จะตกจริงในวันใด เพราะหากมีความแปรปรวนของฮอร์โมนก็อาจทำให้วันที่ไข่ตกจริงคลาดเคลื่อนไปจากวันที่คาดการณ์ไว้ได้ ดังนั้น การที่ผู้ถามและแฟนใช้ถุงยางป้องกันไว้ก่อน จึงถือว่ารอบคอบดีแล้วนะคะ เพราะถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวล

แต่เมื่อมีปัญหาถุงยางฉีกขาด การแก้ไขสถานการณ์โดยรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็ว ก็ถือว่าแก้ไขปัญหาได้เหมาะสมแล้วค่ะ และหากใช้ครบขนาดก็อาจช่วยลดความเสี่ยงที่มีให้เหลือเป็น 15% แทนได้

ดังนั้น ให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ (โดยไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยหรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินหรือเปล่า) หรือตรวจการตั้งครรภ์ในเวลาที่เหมาะสมเพื่อความชัดเจนนะคะ