September 25, 2019 20:28
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
โรคไทฟัสนั้นจะสามารถหายได้สนิทหลังจากได้รับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อนาน 1-2 สัปดาห์ครับ ถ้าหากเวลาผ่านมา 2 เดือนอาการเหล่านี้ก็ไม่น่าเกี่ยวข้องกับโรคไทฟัสแล้ว
ในส่วนของอาการนอนไม่หลับนั้นก็เป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนที่มีอายุมากขึ้นครับ ซึ่งการรับประทานยา circadin ก็เป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยลดอาการนอนไม่หลับได้ แต่ในระยะยาวนั้นก็อาจต้องมีการปรับสิ่งแวดล้อมหรือพฤติกรรมร่วมด้วยเพื่อให้สามารถนอนหลับได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งยาครับ เช่น
- ปรับสภาพแวดล้อมในห้องนอนให้ไม่มีแสงเสียงรบกวน
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมอื่นๆที่ไม่ใช่การนอนในห้องนอน เช่น เล่นโทรศัพท์ อ่านหนังสือ ดูทีวี
- เข้านอนเมื่อง่วงนอนเท่านั้น
- ถ้าหากนอนไป 15-20 นาทีแล้วยังนอนไม่หลับก็ไม่ควรฝืนนอนต่อเพราะจะทำให้หลับยากขึ้น แต่ควรลุกมาหากิจกรรมเบาๆทำและกลับไปนอนอีกครั้งเมื่อเริ่มรู้สึกง่วง
- ตื่นนอนในเวลาเดียวกันของทุกวัน
- ไม่ดื่มชา กาแฟหลังเที่ยงวัน
- ไม่นอนกลางวัน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายมีความเหนื่อยล้าสะสมและนอนหลับได้ดีขึ้น แต่ไม่ควรออกกำลังกายก่อนนอน 4 ชั่วโมงเพราะจะทำให้นอนไม่หลับมากขึ้นได้
ส่วนอาการเวียนศีรษะ จุกแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่มนั้นยังบอกได้ค่อนข้างยากว่าสาเหตุเกิดจากสิ่งใดครับ ในส่วนนี้จำเป็นต้องอาศัยการตรวจร่างกายและตรวจเลือดเพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์เจ้าของไข้ รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง และไปตรวจติดตามอาการอย่างใกล้ชิดครับ ทั้งนี้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวในเบื้องต้นก็มีดังนี้ครับ
- ควรดื่มน้ำในแต่ละวันให้มากๆ
- รับประทานอาหารและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- เวลาลุกยืนควรทำอย่างช้าๆ
- รับประทานอาหารให้ตรงเวลา และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสเผ็ดจัดเปรี้ยวจัด
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ยานอนหลับที่คุณแม่ทานอยู่ทุกวัน คือ Zolpidem 10 mg ค่ะ ทานติดต่อกันมาหลายเดือนแล้วค่ะ เป็นอันตรายรึเปล่าคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ยานอนหลับทุกชนิดนั้นเป็นยาที่ต้องรับประทานด้วยความระมัดระวังภายใต้การดูแลของแพทย์เนื่องจากถ้าหากมีการใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานก็อาจทำให้เกิดการติดยานอนหลับและมีอาการนอนไม่หลับมากขึ้นได้ถ้าหากไม่ได้รับประทานยาครับ และยา Zolpidem เองก็เป็นหนึ่งในยาที่ทำให้เกิดอาการในลักษณะนี้ได้
ดังนั้นถ้าหากสามารถทำได้การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตามที่หมอได้แนะนำไปก็จะเป็นทางหนึ่งที่อาจช่วยให้ลดการใช้ยานอนหลับได้ รวมถึงอาจต้องมีการตรวจหาสาเหตุอื่นๆที่ทำให้มีอาการนอนไม่หลับเกิดขึ้นด้วย เช่น ความวิตกกังวล โรคซึมเศร้า อาการปวดจากโรคทางกายบางอย่าง โรคขาอยู่ไม่นิ่ง (Restless leg syndrome) โรคที่ทำให้มีอาการปวดปัสสาวะบ่อยๆ ภาวะสมองเสื่อม เป็นต้น เพราะถ้าหากมีสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับอย่างแน่ชัดและมีการรักษาที่สาเหตุโดยตรงก็จะได้ผลดีกว่าการใช้ยานอนหลับมารักษาที่ปลายเหตุครับ
แต่ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบความผิดปกติอื่นและไม่สามารถปรับพฤติกรรมเพื่อช่วยในการนอนได้ การรับประทานยานอนหลับก็อาจยังมีความจำเป็นอยู่ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีค่ะ อยากสอบถามเกี่ยวกับอาการของคุณแม่ค่ะ เริ่มจากปัจจุบันคุณแม่อายุ 59 ปีค่ะ เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา คุณแม่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยในตอนนั้นคุณหมอประเมินว่าคุณแม่อาจจะเป็นโรคไทฟัส หรืออาจจะเป็นโรคเห็บหมัดต้นไม้ค่ะ หลังจากตอนนั้นคุณแม่ก็มีอาการนอนไม่ค่อยหลับ และตื่นช่วงตี 3 ทุกวัน จึงไปหาหมออีก หมอบอกว่าคุณแม่น่าจะขาดเมลาโทนิน ก็ให้ยานอนหลับ และ circadin 2 mg กินคู่กันมาเป็นเดือนแล้วค่ะ คุณแม่ก็หลับได้ปกติ แต่ห้ามหยุดยานะคะ แต่ก็มาพร้อมอาการเวียนหัวทุกเย็นช่วง 16.00 - 19.00 ทุกวันค่ะ และมีอาการหายใจไม่เต็มอิ่ม แน่นๆ จุกๆ เสียดตรงลิ้นปี่ หรือ หน้าอก แม่ก็จะกินยาลดกรดค่ะ บวกกลับมีอาการวิตกกังวลเกี่ยวกับอาการที่เป็นอยู่ด้วยค่ะ จนล่าสุดเมื่อวานไปพบหมออีกครั้ง หมอก็ให้ยาแก้เวียนหัว และ ยาคลายกังวลมากินค่ะ อยากทราบคำแนะนำแนวทางการรักษาค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)