ประจำเดือนมาล่าสุดวันที่ 10 ก.พ 62 ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ช่วงเดือนก.พ มีการกินยาคุมแต่ไม่ตรงเวลา เลทไปเป็นชั่วโมงบ้าง วันที่ 24 ก.พ มีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน หลั่งใน หลังจากวันที่ 24 ก.พ ก็ไม่ได้มีการกินยาคุมต่อ เพราะตั้งใจอยากตั้งครรภ์ แต่พอวันที่ 3 มี.ค มีน้ำสีน้ำตาลไหลออกทางช่องคลอด แต่ไม่เยอะ มีอาการปวดท้องน้อยร่วม วันที่ 4 มี.ค ก็ยังมีไหลอยู่ มีอาการเหนื่อยง่าย ปวดท้อง หงุดหงิด มีโอกาสที่จะไม่ท้องมั้ยคะ

1. หากผู้ถามใช้ยาคุมรายเดือนถูกต้องและมีผลคุมกำเนิดจากยาแล้ว แม้จะรับประทานช้ากว่าเวลาปกติไป 1 ชั่วโมง ก็ยังถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องค่ะ การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ จึงมีโอกาสที่จะตั้งครรภ์เพียง 0.3 - 9% ซึ่งน่าจะหวังผลให้มีการตั้งครรภ์ในรอบนี้ได้ยากกว่าผู้ที่ไม่ได้คุมกำเนิดใด ๆ นะคะ

แต่ยาคุมกำเนิดไม่ได้ส่งผลให้มีบุตรยากเมื่อหยุดใช้ค่ะ ดังนั้น ต่อไปก็ควรจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ตามปกตินะคะ ไม่ต้องกังวล โดยจะมีอัตราการครรภ์สำเร็จ 80 - 95% ภายใน 1 ปีหลังหยุดรับประทานค่ะ

อย่างไรก็ตาม หากใช้เวลานานแล้วยังไม่มีการตั้งครรภ์ตามที่ตั้งใจ ผู้ถามและสามีควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมว่ามีปัญหาการมีบุตรยากหรือไม่ เพื่อจะได้พิจารณาแนวทางแก้ไขตามจำเป็นนะคะ

2. ส่วนอาการที่พบในปัจจุบัน หากผู้ถามมีตกขาวสีผิดปกติหรือมีปริมาณมากผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง ถือว่าไม่ปกติ และควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมและรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

วันที่ผู้ถามมีเพศสัมพันธ์ (ซึ่งเป็นวันที่รับประทานยาคุมครั้งสุดท้าย) ยังมีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือนที่ใช้อยู่นะคะ จึงมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.3 - 9% ซึ่งถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ เลยที่จะมีโอกาสตั้งครรภ์สูงถึง 85% ค่ะ