May 13, 2019 13:09
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากเลือดที่ออกมาในวันที่ 6 - 11 เมษายน มีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน โดยเฉพาะในช่วงวันแรก ๆ ก็น่าจะเป็นประจำเดือนที่มาคลาดเคลื่อนจากรอบปกติเล็กน้อยค่ะ เมื่อมีประจำเดือนมาแล้ว ก็หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันที่ 6 เมษายน ไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วนะคะ
และเมื่อนับจากวันที่ 6 เมษายน มาจนถึงปัจจุบัน ผู้ถามยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลย ก็ถือว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์แล้วค่ะ ประจำเดือนในรอบนี้จึงอาจคลาดเคลื่อนจากความเครียด, การเจ็บป่วย หรือความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัยนะคะ ซึ่งหากไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปทั้งที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
แต่ถ้าผู้ถามไม่มั่นใจว่าเลือดที่ออกมานั้นเป็นประจำเดือนจริง ๆ หรือเป็นเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน และกังวลว่าอาจมีการตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ค่ะ โดยใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน ซึ่งหากผู้ถามไม่มีเพศสัมพันธ์มานานแล้ว แนะนำให้ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันพรุ่งนี้ โดยใช้ปัสสาวะแรกของวันในการตรวจนะคะ
..
..
..
อย่างไรก็ตาม การหลั่งนอก หรือการใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกติ เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำและมีโอกาสผิดพลาดได้สูงนะคะ ดังนั้น ครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ ถ้าไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งค่ะ เพราะถ้าใช้ได้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก และยังมีประโยชน์ในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
หากยังมีเพศสัมพันธ์ที่มีความเสี่ยงอยู่ ถึงแม้จะรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ80% แล้ว ก้ยังมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ครับ โดยปกติประจำเดือนอาจมาช้ากว่าปกติได้ประมาณ1อาทิตย์ ครับ หากประจำเดือนมาช้ากว่า1อาทิตย์แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ หรือภายหลังมีเพศสัมพันธ์เกิน2อาทิตย์ ที่มีความเสี่ยงก้สามารถตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะได้เช่นเดียวกัน
ปัจจัยอย่างอื่นที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ตรงรอบ
1.ความเครียด กังวล
2.พักผ่อนไม่เพียงพอ
3.การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุลได้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีอะไรกัน 2 วันปล่อยนอกทั้ง 2 วัน คือ 24มีนา แต่กินฉุกเฉินและมีอะไรกันอีกครั้งวันที่ 1 เมษาปล่อยนอกเช่นเดิมแต่ก็ได้กินฉุกเฉินอีกครั้ง ปกติประจำเดือนจะมาวันที่ 4 ของเดือนแต่ครั้งนี้มาวันที่ 6 เป็นถึงวันที่ 11 เมษา หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรกันเลยพอ พ.ค.ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะวันนี้วันที่ 13แล้วก็ยังไม่มา ไม่ทราบว่าจะมีโอกาสตั้งครรภ์มั๊ยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)