ผมมีแมว 3 ตัว ( 2เดือนกว่า 1 ตัว ) ( 4-5 เดือน 1 ตัว ) ( 2-3 ปี 1 ตัว) แมวตัวที่ 2 อายุ 4-5 เดือน เป็นโรคหัดแมว เป็นมา 3 วันแล้ว มีอาการอาเจีนรเป็นน้ำใสๆ หลายกอง ถ่ายเป็นน้ำ บางครั้งมีเลือปน ไปฉีดน้ำเกลือเข้าผิวหนัง ฉีดวิตามิน ฉีดยาปฏิชีวะนะแล้ว ทำความสะอาดพื้นที่เสี่ยงด้วยไฮเตอร์แล้ว เปลี่ยนกระบะอาหารและน้ำกระบะขับถ่ายแล้ว แยกแมวตัวที่ป่วยออกจากอีก 2 ตัวแล้ว (อาการต่างดีขึ้นไม่อาเจียน ไม่ถ่ายแล้ว แต่ยังไม่กินอาหาร-และน้ำ (ตอนนี้แมวที่เหลือดูเหมือนจะไม่กินอาหารและน้ำ แล้วเอาแต่นอน ไม่อาเจียน ไม่ถ่ายเหลว = แมวที่เหลือจะติดเชื้อหัดป่าวครับ และต้องทำอย่างไรครับ

ตัวที่เป็นไข้หัดแมวตัวแรก แนะนำให้เลี้ยงแยกกับตัวอื่นต่อจนกว่าจะตรวจ testkit ไข้หัดแล้วผลเป็นลบนะคะ การฟื้นตัวของแต่ละตัวอาจไม่เท่ากัน บางตัวเป็นอาทิตย์กว่าอาการจะเริ่มดีขึ้น บางตัวใช้เวลาแค่3-4 วัน อาการก็ดีขึ้นก็เป็นได้ค่ะ ขึ้นกับความรุนแรงและภูมิคุ้มกันของแต่ละตัวด้วยค่ะ ถ้ายังไม่กินอาหารและน้ำเอง แนะนำว่าเจ้าของควรป้อนน้ำป้อนอาหารเป็นเวลานะคะ อาจใช้อาหารกระป๋องสูตรพักฟื้นสัตว์ป่วยก่อนในช่วงแรก หรืออาจให้กินอาหารสูตรเกี่ยวกับทางเดินอาหารก็ได้ค่ะ ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น แนะนำว่าควรตรวจเลือดเช็คปัญหาอื่นที่อาจจะแฝงอยู่เพิ่มเติมร่วมด้วยค่ะ บางรายที่เป็นไข้หัดแมวตรวจเลือดมาแล้วมีโอกาสพบทั้งค่าเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือดต่ำได้ ซึ่งอาจต้องให้ยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ยาอื่นๆเพิ่มเติมตามสมควรค่ะ
ส่วนอีก2ตัว ถ้าเลี้ยงร่วมกัน และไม่ได้ทำวัคซีนมีโอกาสเป็นโรคไข้หัดแมวได้ค่อนข้างสูงค่ะ แนะนำให้พาไปตรวจเช็คกับสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุดนะคะ เพราะโรคไข้หัดแมว เป็นโรคที่มีอัตราการตายค่อนข้างสูง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ รักษาแบบประคับประคองตามอาการจนกว่าร่างกายจะเคลียร์เชื้อออกไปเองค่ะ

ไฮเตอร์ดีกว่าค่ะ สามารถฆ่าเชื้อไวรัสได้ โดยใช้อัตราส่วนคือ ไฮเตอร์ 1 ส่วนต่อน้ำ 30 ส่วนนะคะ ส่วนเดทตอลมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่ฆ่าไวรัสค่ะ

ยาเขียว เป็นยาสมุนไพรชนิดหนึ่ง ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยที่ออกมายืนยันว่ารักษาไข้หัดหายได้ เพียงแต่เป็นการบอกต่อกัน การที่สัตว์จะหายป่วยจากโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส ขึ้นกับภูมิคุ้มกันของร่างกายในแต่ละตัวในการกำจัดเชื้อโรคออกไปค่ะ

ถ้าตรวจแล้วเป็นไข้หัดทั้ง3ตัวจริงๆ หมอก็ยังแนะนำให้แยกเลี้ยงกันจะดีกว่า เพื่อสุขลักษณะความสะอาดด้วยค่ะ และอีกอย่างคือเราจะได้สังเกตอาการของแต่ละตัวได้อย่างชัดเจน เพราะเวลาน้องอาเจียนหรือถ่ายออกมา เราจะไม่รู้ว่าของตัวไหน ตัวไหนอาการแย่จะสังเกตได้ยากนะคะ ใช้กรงเล็กๆใส่แยกกันต่างหากก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ใช่พื้นที่มากจนเกินไป หมี่นทำความสะอาดกรง และถ้าอาการไม่ดีขึ้น แนะนำควรตรวจเลือดเพิ่มเติมด้วยค่ะ เพราะอาจจะไม่ได้เป็นไข้หัด แต่เป็นโรคอื่นๆหรืออาจจะเป็นโรคจากไวรัสอื่นๆเลยทำให้ป่วยได้เช่นกัน