January 16, 2019 21:49
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงมากอยู่แล้วนะคะ แม้จะใช้ถูกวิธีก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% และเมื่อมีการใช้ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้ประสิทธิภาพต่ำกว่าที่ควรจะเป็นนะคะ
2. ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลคุมกำเนิดหลังรับประทานค่ะ เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันซ้ำอีก จึงต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินแผงใหม่โดยเร็วค่ะ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ
โดยสามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินแบบครบขนาดในครั้งเดียวเลยก็ได้ นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียว
แต่ถ้าแฟนผู้ถามต้องการรับประทานตามวิธีดั้งเดิม คือใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด แล้วแยกรับประทานครั้งละ 1 เม็ด ก็ต้องรับประทานห่างกัน 12 ชั่วโมงนะคะ ไม่ใช่ 24 ชั่วโมงเหมือนที่ใช้ไปในครั้งก่อน
3. ให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงเวลา หรือคลาดเคลื่อนไม่กี่วัน (ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่เป็นผลข้างเคียงจากยา อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญค่ะ)
แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมา ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
และระหว่างที่รอให้ประจำเดือนมา ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนค่ะ
หากยังไม่พร้อมจะมีบุตร ครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้วิธีคุมกำเนิดปกติที่ได้มาตรฐานมาป้องกันนะคะ เช่น ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพราะถ้าใช้ได้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนการรับประทานยา 120 ชั่วโมงเท่านั้นครับดังนั้นเมื่อรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแลเวและได้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันอีกหลังจากนั้นก็จะมีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินใหม่อีกครั้งครับ
นอกจากนี้การรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นจะต้องรับประทานทีละ 1 เม็ดห่างกัน “12 ชั่วโมง” หรือรับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันจึงจะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีครับ ในกรณีนี้การรับประทานยาคุมฉุกเฉินครั้งที่ผ่านมาจึงเป็นการรับประทานที่ผิดวิธีและมีโอกาสที่จะผิดพลาดตั้งครรภ์ได้มากขึ้น
หมอแนะนำว่าในตอนนี้ควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินใหม่อีกครั้งก่อน และหลังจากนี้ถ้าหากจะมีเพศสัมพันธ์อีกก็ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยทักครั้งครับ และถ้าหากประจำเดือนมาแล้วก็อาจเริ่มรับประทานยาคุมรายเดือนได้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนครีบ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669

ตอบโดย
จิตตรีพร
อริปริยะกุล
(พยาบาลวิชาชีพ)
eye
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน
ช่วยคุมกำเนิดได้แค่การมีเพศสัมพันธ์ครั้งนั้นๆค่ะ หากทานครบแล้ว หลังจากนั้นมีเพศสัมพันธ์ใหม่โดยไม่ได้ป้องกัน ต้องทานแผงใหม่ซ้ำค่ะ ใน 1 เดือนไม่ควรทานเกิน2ครั้งค่ะ ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เนื่องจากประสิทธิภาพต่ำ ไม่ควรใช้ระยะยาว หากประจำเดือนมาแล้วให้เลือกวิธีการคุมกำเนิดแบบอื่นที่เหมาะสมกับเราค่ะ เช่นยาคุมแบบฝัง ฉีด แปะ กิน ระหว่างนี้หากต้องการมีเพศสัมพันธ์ ให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ผมมีอะไรกับเเฟน โดยไม่ได้ป้องกัน ผมหลั่งใน ตอน16.00น. วันอาทิตย์ เเล้วผมซื้อยาคุมฉุกเฉนให้เเฟนกินตอน6โมงเย็น ของวันจันท์1เม็ด วันอังคาร6โมงเย็นอีก1เม็ด เเล้ววันพุธผมมีอะไรกับเเฟน โดยที่ไม่ได้ป้องกัน อยากจะถามว่า ต้องให้เเฟนกินยาคุมอีกไหมครับ เเล้วเเฟนผมจะท้องไหมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)