มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หลั่งนอก ในวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมา(ตามแอพปฏิทิน) ซึ่งตอนนี้ผ่านไป 8 วันแล้ว ประจำเดือนยังไม่มีวี่แววว่าจะมา ใช้เครื่องตรวจครรภ์แบบปัสสาวะ ขึ้นแค่ 1 ขีด และตอนนี้ ผ่านมา 40 วันนับจากประจำเดือนวันแรกครั้งก่อน อยากทราบว่า มีโอกาสท้องไหม ถ้าไม่ชัวร์ มีวิธีสังเกตอาการท้องไหม และควรทำอย่างไร

การหลั่งนอก มีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้ 22% ค่ะ ส่วนการนับวันปลอดภัย หรือ "หน้า 7 - หลัง 7" มีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้ 24% ทั้งสองวิธีไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการคุมกำเนิด เนื่องจากมีโอกาสตั้งครรภ์สูงกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานหลายเท่า

และเนื่องจากเกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว จึงป้องกันฉุกเฉินไม่ทันแล้วนะคะ จึงต้องรอดูต่อไปว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ ถ้ามีประจำเดือนมาก็คือไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ

แต่ถ้ารอนานแล้วไม่มีประจำเดือนมา แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะเพื่อความชัดเจนนะคะ โดยตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ใช้ปัสสาวะแรกของวัน และตรวจห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ

หากตรวจเร็วไป ผลตรวจที่ออกมา 1 ขีด จะยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นเพราะไม่มีการตั้งครรภ์ หรือว่ามีการตั้งครรภ์แต่ฮอร์โมนการตั้งครรภ์ยังไม่เข้มข้นมากพอที่ชุดทดสอบจะตรวจวัดได้ค่ะ ในกรณีของผู้ถามจึงต้องรอตรวจใหม่ในเวลาที่เหมาะสม หากว่าถึงตอนนั้นแล้วยังไม่มีประจำเดือนมานะคะ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ เนื่องจากในขณะที่มีการสอดใส่นั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้

ส่วนอาการของการตั้งครรภ์ในระยะแรกนั้นจะยังไม่มีอะไรที่ชัดเจนนอกจากการขาดประจำเดือนครับ ส่วนอาการอื่นๆ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน ตกขาวมากขึ้นก็มักเกิดขึ้นหลังจากตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 1-2 เดือนแล้ว

ดังนั้นถ้าหากมีการขาดประจำเดือนไปหมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ซึ่งการตรวจการตั้งครรภ์ครั้งที่ผ่านมานั้นก็ถือว่าเร็วเกินไปจึงอาจให้ผลตรวจที่ผิดพลาดได้ครับ หมอแนะนำว่าในตอนนี้ควรรอตรวจการตั้งครรภ์ใหม่อีกครั้งก่อนตามวิธีที่หมอได้แนะนำไปครับ

ยาคุมฉุกเฉินไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทาน การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันซ้ำอีก มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้สูง จึงจำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินซ้ำอีก 1 แผงโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ

อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงมากนะคะ แม้จะรับประทานครบขนาดและทันเวลา แต่ผู้ใช้ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ค่ะ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือป้องกันด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำอย่างการหลั่งนอก หรือใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกติ เสี่ยงที่จะคุมกำเนิดล้มเหลวและเกิดการตั้งครรภ์ได้มากกว่าที่ควรจะเป็นหลายเท่านะคะ

ครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ เพราะถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ค่ะ

การรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนรับประทานยา 120 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์อีกหลังจากรับประทานยา ยาคุมฉุกเฉินก็จะไม่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ครับ ในกรณีนี้จึงยังคงมีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามการรับประทานยาคุมฉุกเฉินที่ติดต่อกันมากๆนั้นจะทำให้ยาคุมฉุกเฉินมีผลข้างเคียงที่มากขึ้นได้ เช่น คลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม ตกขาวมากขึ้น เลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือน และการรับประทานยาคุมฉุกเฉินก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้เพียง 75-85% เท่านั้น

หลังจากนี้ถ้าหากจะมีเพศสัมพันธ์อีกก็ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเพื่อให้ไม่ต้องกลับมารับประทานยาคุมฉุกเฉินอีกครับ