June 06, 2019 20:27
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
การหลั่งข้างนอก ( withdrawal ) เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพไม่ค่อยดีเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ ครับ
>>จากสถิติ ถ้าทำได้ถูกต้องเลยโอกาสจะตั้งท้องประมาณ 4% แต่โดยทั่วๆไป หรือตามความจริงแล้ว ขณะที่อวัยวะเพศชายสอดใส่ มักมีสเปิร์มออกมาพร้อมกับร้ำหล่อลื่นบ้างบางส่วนครับ ทำให้โอกาสจะตั้งครรภ์ในชีวิตจริงมีสูงถึง 22-27% ครับ
เบื้องต้น ไม่มีการคุมกำเนิดใดที่ให้ผลร้อยเปอร์เซนต์ครับ การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้มาก แต่โอกาสการตั้งครรภ์ยังมีสูงกว่าการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง โดยวิธีอื่นๆครับ
กรณีดังกล่าว หากเป็นรอบเดือนปกติ และคนไข้มีประจำเดือนมาปกติ อาจเป็นประจำเดือนได้ หากมีปนะจำเดือน ก็ถือว่าไม่ตั้งครรภ์ครับ
แต่หากไม่ใช่รอบปกติ อาจเป็นเบือดออกจากยาตุมกำเนิดฉุกเฉินได้ครับ
หลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาจมีผลข้างเคียงครับ
ผลข้างเคียงหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ได้แก่อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และหลังจากรับประทานในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินครับ ประจำเดือนของคนไข้ ควรมาตรวรอบตามปกติครับ หากพบว่าประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติเกิน 1-3 สัปดาห์ (หรือ 14 วันหลังจากมีเพศสัมพันธ์) ให้ทดสอบการตั้งครรภ์ หรือพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การหลั่งนอกมีโอกาสตั้งครรภ์ 4 - 22% ค่ะ ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าความเสี่ยงจะค่อนไปทางสูง คือ 22% นะคะ
และประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินก็ไม่ได้สูงนัก แม้จะรับประทานเร็วและครบขนาดก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ค่ะ
แต่ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วัน โดยประจำเดือนปกติก็ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ
ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน (หรืออาจไม่พบเลยก็ได้) เป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ ไม่ได้สำคัญอะไร และไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือเปล่า
ดังนั้น หากเลือดที่ออกมาดังกล่าวมาตรงตามรอบประจำเดือนปกติ และมีปริมาณมากตามที่กล่าวไปข้างต้น ก็ถือว่าเป็นประจำเดือนที่มาตามรอบ และเมื่อประจำเดือนมาแล้ว ก็หมายถึงไม่มีการตั้งครรภ์นะคะ
แต่ถ้าเลือดที่ออกมาเป็นเพียงเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย ก็น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา จึงยังสรุปไม่ได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ ต้องรอดูต่อไปว่าจะมีประจำเดือนมาหรือเปล่าค่ะ
ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้นะคะ
และครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ หากไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่ และยังไม่พร้อมจะมีบุตร แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพราะถ้าใช้ถูกต้องและถุงยางไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
วันอาทิตย์ที่ผ่านมามีเพศสัมพันธ์กับแฟนไม่ได้หลั่งข้างในค่ะ(ไม่ได้ป้องกันนะคะ แต่ไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทานหลังจากนั้น 1 ชั่วโมง)แล้ววันจันทร์มีประจำเดือนมาเหมือนปกติของทุกๆเดือนที่มาค่ะ แต่ระยะเวลานานขึ้นกว่าเดิมประมาณ 1-2 วันค่ะ จะเสี่ยงตั้งครรภ์ไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)