August 22, 2019 19:59
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
หากมีปัญหาที่กระทบต่อสุขภาพจิตต่างๆ คิดว่าไม่สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆเหล่านั้นได้ การพบจิตแพทย์เป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ตามสิทธิการรักษาครับ สามารถเช็คสิทธิการรักษาได้จากเว็บไซต์ http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การคิดวิตกังวลในเรื่องต่างๆ ทั้งที่รู้ว่าเรื่องที่คิดนั้นไม่สมเหตุสมผล แต่ก็ไม่สามารถหยุดคิดได้ อาการดังกล่าวอาจเป็นความผิดปกติทางด้านความคิด ซึ่งมักพบในกลุ่มโรควิตกกังวลค่ะ
หากมีอาการต่อเนื่องนานเกิน 6 เดือน และรู้สึกเป็นทุกข์กับอาการหรืออาการส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แบบนี้แนะนำให้พบจิตแพทย์นะคะ ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาตามแนวทางที่เหมาะสม
ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ยาช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมองช่วยให้ควบคุมความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมต่างๆได้ดีขึ้น นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามามีปัญหาในเรื่องของความคิดที่รู้สึกว่าไม่สามารถที่จะควบคุมได้ เรื่องในอดีตเข้ามาเยอะ บางครั้งจึงทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุข และทำให้มองหน้าครอบครัวไม่ติด
การที่เราเห็นสิ่งเร้าแล้วเกิดนึกถึงเรื่องในอดีตเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ครับ แต่สิ่งหนึ่งที่อยากให้ตระหนักก็คือตอนนี้เราไม่ใช่ตัวเราเมื่อในครั้งอดีตแล้วครับ การที่เราเริ่มนึกถึงเรื่องในอดีต ให้ลองถามตัวเองว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน กลับมาอยู่กับปัจจุบัน มอบงานให้ความคิด หากิจกรรมต่างๆทำ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้คุณหลุดจากความคิดได้ หากว่าเป็นตอนนอน ให้ลุกขึ้นมาหาอะไรทำเบาๆ อ่านหนังสือ ตรงนี้ก็อาจจะช่วยได้มากขึ้นครับ
นอกจากนั้น ลองดูเรื่องการปรับพฤติกรรมการนอนซึ่งสามารถทำได้โดยการจัดสภาพแวดล้อมในห้องนอนไม่ให้มีแสงสว่างเข้า ไม่มีเสียงรบกวน และนอนในที่นอนที่เรารู้สึกสบายและผ่อนคลายครับ ควรงด ชา กาแฟ หรือน้ำอัดลมที่มีส่วนผสมของคาเฟอีกก่อนช่วงเวลานอนครับ การอาบน้ำอุ่น ทานนมอุ่นๆหรือกล้วย การออกกำลังกายในช่วงเย็น ก็จะสามารถช่วยให้ร่างกายมีอาการง่วงมากขึ้นได้ครับ แต่พยายามอย่าออกกำลังกายหักโหมก่อนเวลานอนนะครับเพราะการออกกำลังกายหนักๆจะเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายทำงานและอาจจะทำให้หลับได้ยากขึ้น การพยายามไม่ดูโทรทัศน์ หรือเล่นโทรศัพท์มือถือก่อนนอนก็จะมีส่วนช่วยให้การนอนหลับได้ง่ายขึ้นและเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้นครับ ด้านล่างนี้ผมได้แนบบทความเกี่ยวกับการนอนไม่หลับไว้นะครับหากต้องการข้อมูลก็สามารถเข้าไปศึกษาได้ครับ
https://www.honestdocs.co/insomnia-psychiatric-disorders-sleep-deprivation
สุดท้ายนี้หากมีความคิดเข้ามาเยอะ และไม่สามารถหยุด หรือเบี่ยงเบนได้ แนะนำว่าลองเข้าปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เพื่อรับตัวช่วยในเรื่องนี้ได้นะครับ และหากมีคำถามอื่นๆก็สามารถสอบถามเข้ามาได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
นอนไม่หลับค่ะ รู้สึกว่ามีภาพในหัวเต็มไปหมด เป็นได้เกือบๆสองเดือนแล้วค่ะ เช่นเวลาเดินทางหรือเจออะไรก็จะเอามาจำหมด เช่นรถยนต์ผ่านตา หน้าคน ของใช้ในบ้าน อะไรก็เป็นภาพในหัวไปหมด รู้สึกหัวไม่โล่งจิตตก ช่วงหลังเริ่มเห็นอะไรแล้วภาพในอดีตก็ผุดขึ้นมาในหัวค่ะ แค่เห็นผ้าที่ตากอยู่ ก็นึกไปถึงตอนเด็กๆที่ทำนู่นทำนี่อยู่ ปกติไม่เป็นอย่างงี้ ล่าสุดอยู่ดีๆก็เริ่มจินตนาการในหัวนู่นนี่ คิดเรื่องไม่ดีกับครอบครัวอยู่บ่อยๆ ทรมานมากค่ะ เหมือนเราไม่อยากคิดแต่จิตสั่งให้คิด ทำให้รู้สึกไม่มีความสุข มองหน้าครอบครัวไม่ติดเลยค่ะ อยากกลับมามีความสุขเหมือนเดิมมาก แต่เหมือนปมความคิดนี้มันติดอยู่กับจิตเราไปแล้ว พยายามออกกำลังกายแล้ว พอจะมีคำแนะนำการรักษามั๊ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)