ดิฉันกินยาคุมฉุกเฉินไปเมื่อเดือนเม.ย แล้วต่อมาอีก5วันคือวันที่19 เม.ย มีประจำเดือนมาถึงวันที่21เม.ย แล้วเดือนต่อมา ประจำเดือนมาวันที่15 พ.ค ถึงวันที่17 พ.คแล้วประมาณวันที่30 พ.คดิฉันมีอะไรกับแฟนแต่หลั่งนอก พอเช้าวันที่31 พ.ค ดิฉันกอนยาคุมฉุกเฉินและกินอีก1เม็ด เมื่อเวลาถัดมาอีก12 ชั้วโมงพอดี ผ่านมา10วันแล้ว มีอาการ ปวดท้อง เวียนหัว คลื่นไส้ และมีตกขาว มีโอกาสจะท้องไหมดิฉันเครียดมากค่ะ

1. เนื่องจากอาการปวดท้อง เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ตกขาว อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ จึงไม่ถือเป็นตัวชี้วัดที่น่าเชื่อถือในการประเมินว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่นะคะ แนะนำให้รอตรวจสอบด้วยวิธีที่น่าเชื่อถือดีกว่าค่ะ 2. การหลั่งนอกไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง โดยทั่วไป มีโอกาสเกิดความผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้ 22% 3. และถ้าพิจารณาจากประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงหรือแน่นอนเหมือนกับวิธีคุมกำเนิดปกติ ต่อให้ใช้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% (งานวิจัยใหม่ ๆ ชี้ว่าตัวเลขอาจสูงหรือต่ำกว่านี้มาก ขึ้นอยู่กับว่ายาไปยับยั้งไข่ตกได้ทันหรือไม่ หรือไข่ที่ตกแล้วมีการผสมกับอสุจิแล้วหรือยัง) จึงต้องบอกว่าแม้จะรับประทานยาคุมฉุกเฉินก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ และมีโอกาสตั้งครรภ์สูงกว่าการใช้วิธีคุมกำเนิดปกติมากหลายเท่า 4. ดังนั้น คงต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติหรือไม่ ซึ่งจากประวัติที่ผ่านมา ประจำเดือนก็น่าจะมาในช่วงนี้ หรืออาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อยไม่กี่วันค่ะ และหากไม่มีประจำเดือนมา แนะนำให้ซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะมาตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน 5. ในระหว่างที่รอให้มีประจำเดือนมา หากต้องการมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ 6. และเมื่อมีประจำเดือนมาแล้ว หากคาดว่าจะมีเพศสัมพันธ์ไปเรื่อย ๆ และยังไม่พร้อมจะตั้งครรภ์ แนะนำให้ปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อพิจารณาการใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ยาคุมรายเดือน, แผ่นแปะคุมกำเนิด, ยาฉีดคุมกำเนิด, ยาฝังคุมกำเนิด หรือห่วงอนามัย ดีกว่าการใช้วิธีที่ประสิทธิภาพไม่สูงมากอย่างการหลั่งนอก, การนับวันปลอดภัย หรือการใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกติค่ะ