December 26, 2018 00:14
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
เมื่อไม่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมแล้ว ก็มีโอกาสที่ไข่จะตกได้ค่ะ ถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้นะคะ
ดังนั้น หากยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร และยังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วเลยค่ะ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ และสามารถรับประทานแบบหมดแผงในครั้งเดียวได้เลย ไม่ว่ายี่ห้อที่ใช้จะเป็นแบบแผงละ 2 เม็ดหรือ 1 เม็ดก็ตาม
แล้วรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ (หมายถึงประจำเดือนจริง ๆ ที่มีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัย และมาต่อกันหลายวันนะคะ ไม่ใช่เลือดกะปริบกะปรอยที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา)
ถ้ารอนานแล้วแต่ไม่มีประจำเดือนมา แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างงน้อย 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
มีโอกาสท้องครับ ถึงเเม้จะน้อยกว่าคนปกติ เนื่องจาก หลังหยุดฉีดยาคุม กว่าจะตกไข่ปกติ มีประจำเดือนได้ อาจใช้เวลาถึง9-12เดือน (ยกเว้นให้นมลูกสม่ำเสมอ ทุกสองถึงสามชั่วโมงมาทุกวัน การให้นมจะเป็นกลไกคุมกำเนิดตามธรรมชาติ โอกาสท้องก็น้อยลงไปอีกครับ)
ถ้ามีเพศสัมพันธ์ยังไม่เกิน72ชม หรือ บางตำราให้ถึง120ชม เเนะนำยาคุมฉุกเฉินครับ
ท้องตลาดจะเป็น ยี่ห้อ Postinor,Madonna {ตัวยาชนิดเดียวกัน}
แต่ละกล่องจะมี ยา 2 เม็ด
รับประทานให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน โดย หากรับประทานภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้อง
ให้รับประทานยา Postinor หรือ Madonna ได้สองวิธี
1.รับประทานทันที 2 เม็ด
2.รับประทาน 1 เม็ดทันที เเละรับประทาน เม็ดต่อไป ในอีก 12 ชม.
สองวิธีประสิทธิภาพไม่เเตกต่างกัน
วิธีเเรกสะดวก แต่อาจเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้มากกว่า
วิธีที่สอง อาการคลื่นไส้อาเจียนน้อย เเต่ต้องดูเวลาดีๆ ครับ
หากอาเจียนภายใน 2 ชม.หลังกินยา ต้องกินใหม่นะครับ เพราะยายังไม่ได้ดูดซึม
ผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านม
หลังรับประทานยาจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน
กรณีคนไข้ ประจำเดือนจริงๆ จะมาน่าจะช้าครับ เนื่องจากปกติหลังฉีดยาคุมเเบบสามเดือน ถ้าหยุดฉีดไป กว่าประจำเดือนจะมาปกติ ใช้เวลา9-12เดือนอยู่เเล้ว
การทดสอบการตั้งครรภ์ อย่างเร็วคือ14วันหลังมีเพศสัมพันธ์ถึงพอจะตรวจได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขออนุญาตแนะนำเพิ่มเติมนะคะ
1. แม้ว่าโดยเฉลี่ยแล้ว ผู้ที่เคยฉีดยาคุมแบบ 3 เดือน อาจใช้เวลานานหลายเดือนกว่าที่จะมีไข่ตกและพร้อมตั้งครรภ์ ซึ่งก็คือ 4 - 5 เดือนนับจากวันนัดฉีดยาล่าสุด หรือประมาณ 8 - 9 เดือนนับจากวันที่ฉีดยาคุมเข็มสุดท้าย
***ไม่ใช่ 8 - 9 เดือนนับจากวันที่ไม่ได้ไปฉีดยาคุมตามนัดนะคะ***
และแม้ว่าโดยเฉลี่ย จะใช้เวลานานตามที่กล่าวมา แต่ผู้ใช้บางรายก็ใช้เวลาน้อยกว่านั้นมาก หรือบางรายก็ใช้เวลานานกว่านั้นมากค่ะ ดังนั้น เมื่อผู้ถามหยุดฉีดยาคุมมา 4 เดือนแล้ว ถือว่าเสี่ยงที่อาจจะมีไข่ตกและพร้อมตั้งครรภ์ได้แล้วนะคะ
จึงควรรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ อย่างที่แนะนำไปข้างต้นค่ะ
2. การคุมกำเนิดด้วยการให้นมบุตร หรือ Lactational Amenorrhea Method (LAM) จะมีประสิทธิภาพดีหากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียว และมีการกระตุ้นเต้านมด้วยการให้ลูกดูดนมหรือปั๊มนมอย่างสม่ำเสมอทุก 2 - 3 ชั่วโมง
แต่ถ้ามีการให้อาหารอื่น ๆ ทดแทนหรือเสริมไปจากการให้นมแม่ การกระตุ้นเต้านมก็จะไม่บ่อยหรือนานพอ จึงน่าจะไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะยับยั้งไข่ตกได้แล้วค่ะ
โดยปกติ จะมีการแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด จึงถือว่า LAM มีประสิทธิภาพดีในระยะเวลาดังกล่าวหากให้นมอย่างเหมาะสมค่ะ
แต่ในกรณีนี้ที่ผู้ถามคลอดมา 10 เดือนแล้ว ก็ไม่น่าจะหวังผลคุมกำเนิดจาก LAM ได้แล้วนะคะ
3. ยาคุมฉุกเฉินที่มีจำหน่ายในประเทศไทยในปัจจุบัน มีหลายยี่ห้อ และมีทั้งชนิดที่เป็นแผงละ 2 เม็ดและแผงละ 1 เม็ด แต่ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อใด ก็มีตัวยาเดียวกัน และมีปริมาณยารวมทั้งแผงเท่ากันค่ะ ประสิทธิภาพและผลข้างเคียงจึงไม่แตกต่างกัน
ดังนั้น ไม่จำเป็นจะต้องใช้เฉพาะ 2 ยี่ห้อที่คุณหมอให้ตัวอย่างไว้ก็ได้นะคะ จะได้ไม่เสียเวลาตามหา ถ้าร้านยาใกล้บ้านของผู้ถามไม่มียี่ห้อที่กล่าวมา เพราะยิ่งใช้ล่าช้า ประสิทธิภาพในการป้องกันก็จะยิ่งลดลงค่ะ
และไม่ว่าจะใช้ยี่ห้อใด ก็สามารถรับประทานให้หมดแผงในครั้งเดียวได้เลยนะคะ ผลจากการศึกษาวิจัยระบุว่าผลข้างเคียงไม่แตกต่างกันกับการแยกรับประทานเป็น 2 ครั้ง และไม่ต้องกังวลว่าจะรับประทานไม่ครบขนาดด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ฉีดยาคุมแบบ 3 เดือน หยุดฉีด 4 เดือน มีอะไรกับแฟน แล้วหลั่งใน มีสิทธิ์ท้องไหมค่ะ พึ่งคลอดลูกได้ 10 เดือน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)