คือผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแบบใส่ถุงยางครับ พอเสร็จก็ถอดออกมาเช็ดครับแล้วหลังจากนั้น ผมก็สอดไปในอวัยวะเพศของแฟนอะครับแต่ตรงปากช่องคลอดมันจะมีน้ำอยู่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำอสุจิหรือน้ำของแฟนอ่ะครับ ถ้ามันเป็นอสุจิมันจะติดอวัยวะเข้าไปด้วยไหมครับกลัวแฟนจะท้องครับ(ใส่ถุงยางตรวจสอบทุกอย่างแล้วนะครับ)

สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าสิ่งที่สอดใส่เข้าไปในช่องคลอดหลังจากถอดถุงยางอนามัยแล้วคือยิ้วหรืออวัยวะเพศชายครับ

การมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอนามัยโดยที่ไม่มีการแตกรั่วนั้นจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้น ซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยที่สูงมากครับ แต่ในกรณีนี้สิ่งที่ทำให้การมีเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัยคือการที่ได้มีการสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไปในช่องคลอดหลังจากถอดถุงยางอนามัยไปแล้วครับ เพราะในกรณีนี้มีความเป็นไปได้ที่จะมีน้ำหล่อลื่นหรืออสุจิที่ตกค้างอยู่หลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ .... ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มเติมให้เร็วที่สุดก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ

โอกาสที่จะไม่ตั้งครรภ์ก็มีครับ แต่โอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้ก็มีเช่นกัน

ถึงแม้จะเช็ดอสุจิที่อาจเลอะอยู่ภายนอกออกไปแล้ว แต่เมื่อมีการสอดใส่กลับเข้าไปอีกก็ไม่มีอะไรที่จะการันตีว่าตะไม่มีน้ำหล่อลื่นออกมาและเข้าไปในช่องคลอดอีกหลังจากนั้น เหตุการณ์นี้จึงถือว่ามีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ครับ

โดยทั่วไปแล้วในยาคุมฉุกเฉิน 1 แผงจะมียา 2 เม็ด สามารถรับประทานได้ 2 วิธี คือ 1. รับประทานพร้อมกันทีเดียว 2 เม็ด 2. รับประทานทีละ 1 เม็ดห่างกัน 12 ชั่วโมง ..... ซึ่งจะเลือกรับประทานยาด้วยวิธีใดก็ได้เพราะประสิทธิภาพของยาจะเท่ากันครับ แต่การรับประทานในรูปแบบ 2 เม็ดพร้อมกันอาจมีข้อดีเหนือกว่าตรงที่ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมรับประทานยาเม็ดที่ 2 ..... แต่ก็อาจมียาคุมฉุกเฉินบางยี่ห้อที่มียา 1 เม็ดในแผงเดียว ก็สามารถรับประทานยาเม็ดนั้นเม็ดเดียวได้เลยครับ