March 22, 2019 20:01
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ การใช้ถุงยางอนามัยที่ผิดพลาด สามารถก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> ดังนั้น หากไม่แน่ใจ และไม่ได้คุมกำเนิดโดยวิธีอื่นๆ ช่วย อาจจะต้องรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน โดยเร็วที่สุดค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> โดยหากรับประทานภายใน 24 ชม แรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จะเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% -90%>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> แต่ถ้ากินภายใน 72 ชม ประสิทธิภาพได้ประมาณ 75% ค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> และช้าสุดที่ 120 ชม ประสิทธิภาพ ของการป้องกันการตั้งครรภ์ยังพอมีอยู่ แต่ลดลงไปมากค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> หรือถ้าต้องการประสิทธิภาพการคุมกำเนิดมากขึ้น จะเปลี่ยนไปคุมกำเนิดโดยใช้ ห่วงอนามัยชนิดเคลือบสารทองแดงก็ได้ค่ะ ประสิทธิภาพจะสูงกว่ายาคุมกำเนิดในช่วง 72-120 ชมค่ะ (สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 0-120 ชมได้ดี และมีประสิทธิภาพประมาณ 99%) ค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> อย่างไรก็ตาม หลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน อาจมีผลข้างเคียงค่ะ ผลข้างเคียงหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ได้แก่อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และหลังจากรับประทานในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินค่ะ ประจำเดือนของคนไข้ ควรมาตรวรอบตามปกติค่ะ หากพบว่าประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติเกิน 1-3 สัปดาห์ให้ทดสอบการตั้งครรภ์ หรือพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากใช้ถุงยางแล้วเกิดปัญหารั่วซึม, ฉีกขาด หรือเลื่อนหลุด ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากกว่าที่ควรจะเป็นค่ะ ดังนั้น ถ้ายังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้คุมกำเนิดฉุกเฉินโดยเร็วนะคะ โดยมี 2 ทางเลือก คือ........................................................................................................................................................................................................................ 1. รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ อาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาเป็น 15 - 25% ค่ะ แต่วิธีนี้ไม่มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทานนะคะ ดังนั้น ครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ ก็จะต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง และเพิ่มความระมัดระวังในการใช้เช่น เลือกขนาดให้เหมาะสมและใช้ให้ถูกวิธีค่ะ ............................................................................................................................................................................................................................... 2. ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ วิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงมาก ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.6 - 0.8% เท่านั้น และยังมีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องได้นาน 3 - 10 ปี ขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อยากสอบถามคุณหมอค่ะ มีเพศสัมพันธ์กับแฟน แล้วถุงยางหลุดไปในช่องคลอดข้างในค่ะ ตอนแฟนดึงออกมามันไม่มี ก้อเลยหาบนเตียง กว่าจะรู้ว่าเข้าไปอยู่ด้านข้างในเลยก็ผ่านไป 10 นาทีได้แล้วค่ะ ถึงดึงออกมา แบบนี้มีโอกาสท้องมั้ยค่ะ อยู่ในช่วงประจำเดือนเพิ่งหมดไปประมาณ 3-4 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)