September 26, 2018 20:23
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการดังกล่าวนั้นอาจเป็นอาการของความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ อาการของโรคโลหิตจางตามที่สงสัยได้ครับ
แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานยาคุมกำเนิดที่ไม่สม่ำเสมอ รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันนั้นก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้มีการตั้งครรภ์ได้มาก อาการต่างๆจึงอาจเป็นผลจากการตั้งครรภ์ได้เช่นกันครับ
ดังนั้นในเบื้องต้นจึงควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในหารตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
"เลือดที่ออกมาจากช่องคลอด" ไม่ได้เป็น "ประจำเดือน" เสมอไปค่ะ แต่อาจเป็น "เลือดกะปริบกะปรอย" ที่เป็นผลข้างเคียงจากการรับประทานยาคุมฉุกเฉินก็ได้
ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงเหมือนวิธีคุมกำเนิดปกตินะคะ นั่นคือ
- ต่อให้รับประทานเร็วที่สุด ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15%
- แต่ผู้ที่ใช้ยาคุมรายเดือนถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.3%
จะเห็นได้ว่าความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ต่างกันหลายเท่า ดังนั้น จึงควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเฉพาะกรณีที่ฉุกเฉินจริง ๆ เช่น ถูกข่มขืน หรือใช้ในกรณีที่เกิดความผิดพลาดจากการคุมกำเนิดปกติ เช่น ลืมรับประทานยาคุมรายเดือนต่อเนื่องค่ะ
ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกตินะคะ เพราะจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากกว่าหลายเท่า ยิ่งใช้บ่อย ๆ ก็ยิ่งเสี่ยงบ่อย ๆ ที่จะคุมกำเนิดล้มเหลวและตั้งครรภ์ได้ค่ะ
หากมีประจำเดือนมาแล้ว หมายถึงการมีเพศสัมพันธ์ก่อนที่จะมีประจำเดือนไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วนะคะ แต่ถ้าเป็นเพียงเลือดกะปริบกะปรอยที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์ค่ะ นั่นหมายถึง ตราบใดที่ประจำเดือนยังไม่มาก็ถือว่ายังเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้
..
..
การมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งนอก เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำค่ะ โดยทั่วไปมักจะควบคุมการหลั่งได้ไม่สมบูรณ์แบบ จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูง 22%
ในขณะที่ถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึม จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2%
จะเห็นได้ว่า ผู้ถามใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำ และมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงนะคะ ดังนั้น แนะนำให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนค่ะ หากยังไม่มีประจำเดือนมาในอีก 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ ควรตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เดือนก่อนมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแต่กินยาทุกครั้งที่มีหลังจากนั้นประจำเดือนก็มาแต่มาถึง3ครั้งในเดือนเดียวตกใจมากแต่พอเดือนนี้มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้คุมแล้วไม่เคยแตกในสักครั้งไม่ว่าจะคุมหรือไม่คุมเดือนนี้ประจำเดือนยังไม่มาเลยก็เลยคิดว่าเดือนก่อนมาเยอะเดือนนี้คงไม่มาแล้วเวียนหัวเหมือนจะอาเจียนปวดท้องหรือคงเครียดเกินไปหรืออาจจะเป็นเพราะหนูเป็นเลือดจางอยู่ตอนนี้เลยไม่รู้จะคิดว่าเกิดจากอะไรหรือพักผ่อนไม่พอก็ไม่รู้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)