May 11, 2018 17:31
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
ถ้าต้องมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอ เช่นสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ก็ถือว่ามีความถี่ที่สม่ำเสมอแล้วค่ะ แนะนำให้คุมกำเนิด โดยการทานยาฮอร์โมนรวม แบบ28(ต้องทานทุกวัน แม้ไม่ได้มี พศพ ค่ะ) หรือ 21 เม็ดก็ได้ค่ะ หรือ ถ้าไม่ชอบทานยา จะฉีดยาทุก 3 เดือนก็ได้ค่ะ แต่ถเาไม่สะดวกจริงๆ ใช้ถุงยางอนามัย เป็นครั้งๆ ก็มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดที่ดีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์ไม่บ่อยครั้ง ทางเลือกที่เหมาะสมในการคุมกำเนิดก็คือ
1. ป้องกันด้วยถุงยางอนามัย ข้อดีคือ ไม่ต้องใช้ต่อเนื่องทุกวัน(ใช้เฉพาะเมื่อต้องการมีเพศสัมพันธ์) และไม่ต้องทนกับผลข้างเคียงจากยา รวมถึงป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ มีโอกาสตั้งครรภ์ 2 - 18% แต่หากใช้ได้ถูกต้องและไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด โอกาสตั้งครรภ์ก็ค่อนไปทางเลขต่ำนะคะ
2. คุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน ยกตัวอย่างเช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ข้อดีคือมีประสิทธิภาพสูงกว่าโดยเฉพาะหากใช้ได้ถูกต้องและเหมาะสม ไม่ถูกขัดจังหวะในระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ แต่ข้อเสียก็คือ ต้องรับประทานทุกวันต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นวันที่มีเพศสัมพันธ์หรือไม่มีเพศสัมพันธ์ก็ตาม (อาจมีช่วงเว้นว่างในกรณีที่ใช้ยาคุมชนิด 21 - 22 เม็ด) มีผลข้างเคียงจากยา และไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ การใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 0.3 - 9% ค่ะ ถ้าใช้ถูกต้องและเหมาะสม ไม่มีปัญหาที่ลดประสิทธิภาพของยาคุม ตัวเลขก็จะค่อนไปทางต่ำนะคะ
ส่วนยาคุมฉุกเฉิน ไม่แนะนำให้ใช้ในกรณีนี้ค่ะ เพราะประสิทธิภาพโดยรวมต่ำกว่าและได้ผลไม่แน่นอน ต่อให้รับประทานเร็วที่สุดก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ราว 15% และยิ่งมีการนำมาใช้บ่อย ๆ หรือใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ ก็จะยิ่งมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงกว่ามากค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วอย่างดิฉันไม่เคยทานยาคุมกำเนิดเลยต้องเริ่มที่ยาคุมฉุกเฉินหรือสามารถทานแบบทั่วไปได้เลยคะ ปล. แฟนดิฉันไม่อยากใช้ถุงยางแล้วค่ะ เค้าบอกไม่ได้อารมณ์ เลยต้องเป็นฝ่ายป้องกันแทนค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การใช้ยาคุมรายเดือน จะเป็นการป้องกันไปข้างหน้าค่ะ หมายถึงต้องรับประทานให้เกิดผลในการคุมกำเนิดก่อน จึงค่อยมีเพศสัมพันธ์ ส่วนการใช้คุมฉุกเฉิน เป็นการป้องกันย้อนหลัง หมายถึง มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันไปแล้ว หรือเกิดข้อผิดพลาดจากวิธีคุมกำเนิดปกติไปแล้ว (เช่นถุงยางฉีกขาด) จึงค่อยรับประทานยาคุมฉุกเฉินตามหลังโดยเร็ว อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
ดังนั้น ในตอนนี้ ต้องพิจารณาว่ามีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันไปแล้วหรือยัง ถ้ามีไปแล้ว ก็ต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินนะคะ แต่ประสิทธิภาพอาจไม่สูงเท่ากับวิธีคุมกำเนิดปกติ
การเริ่มใช้ยาคุมรายเดือนในครั้งแรก (ยาคุมแผงแรก) ควรใช้ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อยู่อย่างแน่นอน และการใช้ในช่วงเวลานี้ จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่ยาคุมเม็ดแรกที่รับประทานด้วยค่ะ จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้เลย
แต่ถ้าใช้ไม่ทันใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน จะต้องมั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์อยู่ เช่น นับจากวันที่มีประจำเดือนครั้งล่าสุดมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลย หากเป็นเช่นนี้ก็สามารถใช้ยาคุมรายเดือนได้ค่ะ แต่จะต้องใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อน หรือใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยวติดต่อกันให้ครบ 2 วันก่อน จึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ ใน 7 วันแรกที่รับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวม จึงต้องใช้ถุงยางร่วมด้วยหากจะมีเพศสัมพันธ์ (หรือใช้ถุงยาง 2 วันหากใช้ยาคุมชนิดฮอร์โมนโปรเจสตินเดี่ยว)
และในระหว่างที่รับประทานเม็ดยาฮอร์โมน จะไม่มีการหลุดลอกของเยื่อบุมดลูกออกมาเป็นประจำเดือนนะคะ ดังนั้น หากเริ่มใช้ไม่ตรงช่วง 5 วันแรกที่มีประจำเดือน ก็ไม่ต้องตกใจหากจะไม่มีประจำเดือนมาตามรอบเดิม เพราะประจำเดือนจะมาในช่วงปลอดฮอร์โมนนั่นเองค่ะ (ช่วงปลอดฮอร์โมนคือช่วงเว้นว่าง 7 วันในกรณีที่ใช้ยาคุม 21 เม็ดหมดแผง หรือช่วงที่ใช้เม็ดแป้งในกรณีที่ใช้ยาคุมฮอร์โมนรวมชนิด 28 เม็ดค่ะ)
อย่างไรก็ตาม การใช้ยาคุมกำเนิด มักจะต้องมีการใช้ในระยะยาว ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจและประเมินว่าควรใช้ยาคุมกำเนิดชนิดใดจึงจะเหมาะสมนะคะ และควรไปตรวจประเมินซ้ำอย่างน้อยปีละครั้ง หรือตามระยะเวลาที่คุณหมอแนะนำด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้าเกิดว่าไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ทุกวันแต่ทำเป็นประจำเช่นอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง ควรทานยาคุมแบบไหนคะ แล้วถ้าเกิดต้องทานแบบปกติต้องทานทุกวันทั้งที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ทุกวันรึเปล่าคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)