สวัสดีค่ะ หนูมีอาการปวดบริเวณอวัยวะเพศค่ะ ตอนแรกๆเจ็บเล็กน้อยเหมือนแผลฉีก หลังจากนั้นเริ่มมีอาการคันรอบๆ และเริ่มแสบเวลาปัสสาวะ มีอาการตกขาวเหมือนน่าจะปนหนองไหลคลายตกขาว เลยไปหาหมอค่ะ หมอตรวจปัสสาวะดูอวัยวะเพศถามอาการตามปกติและวินิจฉัยว่ากระเพาะปัสสาวะอักเสบเฉียบพลันเลยให้ยาแก้ปวดกับยาฆ่าเชื้อมากิน ยาแก้อาเจียนอีก1ตัว (แต่เราไม่ได้กินเพราะไม่มีอาการ)​และฉีดยา1เข็มค่ะ ตอนนี้กินยามาแล้ว3วัน หลังจากวันที่ไปหาหมอตกขาวกลายเป็นปนเลือดแทนค่ะและมีอาการเจ็บรูทวารเพิ่มเหมือนตอนที่เริ่มเป็นตรงอวัยวะช่วงแรก ตอนนี้มีตุ่มบวมขึ้นที่รูทวารประมาน2-3ตุ่มค่ะ และบริเวณอวัยวะกลายเป็นแผลทั้งหมด พรุ่งนี้จะไปหาหมออีกรอบค่ะ ตั้งแต่ที่เป็นตอนแรกไม่มีอาการปวดท้องหรือมีไข้เลยค่ะ คำถาม : ไม่ทราบว่าที่เป็นอยู่ใช่อาการของกระเพาะปัสสาวะอักเสบมั้ยคะ และถ้าไม่ใช่ตอนนี้กำลังเป็นอะไรอยู่คะ ถ้าหมอวินิจฉัย​ผิดควรทำยังไงคะ อาการจะลามไปมากกว่านี้มั้ย และจะแย่ลงกว่านี้มั้ยคะ

ถ้าเป็นกลุ่มของตุ่มใสๆ จากนั้นแตกเป็นแผลตื้นๆ เจ็บมาก อาจเป็นอาการของโรคเริมค่ะ เริมเกิดจากเชื้อไวรัส หลังติดเชื้อครั้งแรก อาการจะรุนแรง เป็นกลุ่มของตุ่มน้ำใสๆ เจ็บมาก แสบร้อน ถ้าเป็นด้านล่าง อาจมีปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย มีไข้ได้ อาการหลังติดเชื้อครั้งแรก จะมีอาการมากค่ะ จำเป็นต้องได้รับยา เพื่อบรรเทาอาการ หลังจากหาย เชื้อไวรัสจะไปแอบอยู่ตามปลายประสาท เมื่อร่างกายอ่อนแอ เช่น เจ็บป่วย นอนดึก เชื้อไวรัสก็จะออกมา ทำให้เกิดอาการอีกได้ค่ะ โดยอาการที่เกิดเป็นซ้ำ จากเชื้อไวรัสที่ออกมาจากปลายประสาท จะรุนแรงน้อยกว่า ตุ่มไม่เยอะมาก ไม่มีไข้ มักจะหายได้เอง การรับประทานยา ก็อาจจะช่วยลดระยะเวลาที่มีอาการเท่านั้น เริม จึงเป็นโรคที่รักษาหายขาดได้ยากค่ะ ควรรักษาร่างกายให้แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ กินอาหารที่สุก สะอาด ครบ 5 หมู่ เมื่อร่างกายแข็งแรง แม้จะมีเชื้อไวรัสอยู่ในร่างกาย แต่ก็ไม่แสดงอาการ ไม่ทำให้เราเจ็บป่วยค่ะ ยามาตรฐานของการรักษาเริม ทั้งที่บริเวณริมฝีปาก และ อวัยวะสืบพันธ์ุ จะเป็นยารับประทานนะคะ (acyclovir)