March 11, 2017 17:16
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
โดยทั่วไป ทั้งในเพศหญิงและในเพศชาย จะมีการสร้างน้ำเมือกเพื่อช่วยให้ความชุ่มชื้นต่อเนื้อเยื่อเมือกเหล่านี้ ซึ่งน้ำเมือกนี้ มักมีกลิ่นคาวเล็กน้อย ดังนั้นในบริเวณนี้ของผู้หญิงทุกคน และทุกวัย จึงมีกลิ่นคาวอ่อนๆเป็นปกติเสมอ ซึ่งกลิ่นคาวนี้อาจแรงขึ้นบ้างในช่วงใกล้มี ประจำเดือนจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศที่ก่อให้เกิดการมีประจำเดือน โดยอาจเกิดร่วมกับการมีตกขาว สีขาวเหมือนแป้งเปียก หรือขาวใสเล็กน้อยพอติดกางเกงในได้ ซึ่งทั้งหมดจัดเป็นภาวะปกติ
แต่ถ้ามีกลิ่นจากช่องคลอดรุนแรงมากกว่านี้ โดยเฉพาะเมื่อร่วมกับ ตกขาวปริมาณมาก มีสีและลักษณะที่ผิดปกติ (เช่น เหลือง หรือเป็นมูก มูกปนเลือด หรือ เป็นเลือด) มีผื่นในบริเวณอวัยวะเพศ คัน แสบผิวหนังส่วนช่องคลอด เกิดการเจ็บเมื่อมีเพศสัมพันธ์ หรือปวด/เจ็บ แสบเมื่อปัสสาวะ หรือปัสสาวะขุ่น ถือว่า เป็นอาการผิดปกติ ที่ควรต้องพบแพทย์/สูตินรีแพทย์
การรักษาภาวะช่องคลอดมีกลิ่น คือ การรักษาสาเหตุและการรักษาประคับ ประคองตามอาการ
การรักษาตามสาเหตุ ซึ่งจะแตกต่างกันตามสาเหตุ เช่น เลิกการสวนล้างช่องคลอด ร่วม กับกินยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อกลิ่น (ยา Metronidazole) เมื่อโรคเกิดจากการขาดสมดุลของแบคทีเรียประจำถิ่นในช่องคลอด การรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เมื่ออาการมีสาเหตุจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
การรักษาประคับประคองตามอาการ เช่น ยาแก้คันเมื่อมีอาการคัน และการปรับพฤติ กรรมต่างๆ เช่น เลิกการสวนล้างช่องคลอด รักษาความสะอาดกางเกงใน เปลี่ยนกางเกงในบ่อย ๆ เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยน้ำพออุ่นเป็นหลักร่วมกับใช้สบู่ที่อ่อน โยนมากๆ เช่น สบู่เด็กอ่อนที่ไม่ใส่น้ำหอม เป็นต้น
Reference :หาหมอ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ผ่าคลอดทำหมันได้ 2 เดือนแล้ว รู้สึกว่าอวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็นแต่ไม่คันค่ะ เกิดจากอะไรคะ
ช่องคลอดมีกลิ่นแรงทำไงดี
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)