มีอาการเวียนหัวบ้านหมุนมานานหลายปีค่เเป็นไม่มากแต่เป็นทุกวัน ทำอะไรก็ต้องทำช้าๆ นั่งรถขึ้นเรือนั่งเครื่องก็จะอาการหนัก แต่ล่าสุดคิอ2-3วันมานี้ มีอาการมองแล้วเบลอมาก บ้านหมุนหนักมากทั้งๆที่นอนเฉยๆ อยู่ดีๆก็หมุนเอง รวมทั้งหมุนจากในหัวเหมือนทุกอย่างมันเบลอไปหมด หาหมอเลยดีมั้ยคะควรทำยังไง ใช้ชีวิตลำบากทำอะไรก็ไม่ได้ ต้องหยุดชะงักตลอด ตอนนี้นอนเฉยๆมา2วันแล้วค่ะ

ถ้ามีอาการเวียนหัวบ้านหมุนมากเเบบเฉียบพลัน สัมพันธ์กับการเปลี่ยนท่าเร็วๆ น่าจะเป็นภาวะBPPV หรือ Benign Paroxysmal Positional Vertigoครับ ซึ่งไม่ได้อันตราย เกิดจาก หินปูนในหูหลุดลอกไปโดนเส้นประสาท จะเกิดตอนเปลี่ยนท่าเร็วๆครับ
ถ้าเป็นBPPV การรักษาคือการกินยา เช่น Betahistine ครับ ร่วมกับการกายภาพบำบัด งดการเปลี่ยนท่าเร็วๆครับ
หรือมีเสียงวิ้งเสียงอื้อในหู (สงสัยภาวะน้ำในหูไม่เท่ากัน) ครับ
อาการเวียนศรีษะบ้านหมุน ควรพบเเพทย์หูคอจมูกครับ(ENT)

เเต่ถ้ามีอาการร่วม เช่น เเขนขาอ่อนเเรงยกไม่ขึ้น หน้าเบี้ยวปากเบี้ยว อาการเวียนเป็นตลอดไม่หาย ทรงตัวไม่ได้ (สงสัยเส้นเลือดในสมองตีบ)
อันนี้ควรพบเเพทย์ทันทีครับ

เวียนศีรษะต้องแยกจากมึนศีรษะก่อน โดยเวียนศีรษะจะรู้สึกเหมือน สิ่งแวดล้อม/บ้านหมุน หรืออาจรู้สึกเหมือนตัวเองหมุน/โยก/โคลงเคลง เหมือนอยู่บนเรือ ส่วนมึนศีรษะจะมีความรู้สึกเหมือนงงๆ มึนๆทั่วหัว หรือหัวเบาๆ มีตาลาย ตาพร่า ขณะเปลี่ยนอิริยาบถจะมีอาการมากขึ้น

อาการเวียนศีรษะ ส่วนใหญ่จะเกิดจาก 2สาเหตุ คือเวียนศีรษะจากระบบประสาทส่วนปลาย ซึ่งพบได้บ่อย เช่น โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน น้ำในหูไม่เท่ากัน อาการหูชั้นในอักเสบเฉียบพลัน โดยส่วนใหญ่มักจะเวียนศีรษะรุนแรง และมักมีคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
ส่วนอีกแบบ คือเวียนศีรษะจากระบบประสาทส่วนกลาง เช่น หลอดเลือดในสมองขาดเลือด ก้อนเนื้องอกในสมอง สมองอักเสบ โพรงสมองคั่งน้ำ กลุ่มนี้มักเวียนศีรษะไม่รุนแรง คลื่นไส้อาเจียนไม่มากได้ มักมีอาการเสียการทรงตัว และเห็นภาพซ้อน พูดไม่ชัด ฯลฯ
นอกจากนั้น ถ้าเป็นแบบ ลุกขึ้นแล้วหน้ามืด อาจเป็นจากความดันต่ำ จากการ ขาดน้ำในร่างกาย เช่น ท้องเสีย, จากระบบเลือด เช่น ซีด เลือดจาง, จากหัวใจ/ต่อมหมวกไต ทำงานผิดปกติ หรือจาก ยาที่รับประทานอยู่ เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าเรื่องของ อาการเวียนศีรษะสามารถเป็นได้หลายโรค แนะนำให้ไปพบแพทยเพื่อซักประวัติ ตรวจร่างกาย และส่งตรวจเพิ่มเติม เพื่อได้รับการรักษาและคำแนะนำอย่างเหมาะสมครับ

ผู้ป่วยโรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อนจะไม่มีการสูญเสียการได้ยิน, ไม่หมดสติ, ไม่มีอาการแขนขาอ่อนแรง และไม่เวียนศีรษะจนเดินเซไปข้างใดข้างหนึ่งเพียงข้างเดียว หากมีอาการทางประสาทที่ไม่เหมือนโรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อนต่างๆเหล่านี้ต้องรีบไปโรงพยาบาลเนื่องจากอาจเป็นโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ได้

สาเหตุของอาการบ้านหมุนนั้นมีหลายสาเหตุทั้งสาเหตุจากในศีรษะและนอกศีรษะ
สาเหตุจากในศีรษะที่พบได้บ่อยเช่น
1.โรคบ้านหมุนจากหินปูนในหูหลุด BPPV มักมีอาการบ้านหมุนเวลาเปลี่ยนอิริยาบถ เช่น นั่งเป็นยืน หรือ นั่งเป็นนอน อย่างรวดเร็ว มักมีอาการ ไม่นานนัก เป็นนาที ถึงชั่วโมง
2.โรคบ้านหมุนมีเนียร์ meniere เกิดจากน้ำในหูไม่เท่ากัน จากความดันในหูที่แตกต่างกัน มักเกิดอาการบ้านหมุนได้เอง โดยไม่สัมพันธ์กับการเปลี่ยนท่าทางมักมีอาการบ้านหมุน เป็นหลายนาที ถึงหลายชั่วโมงได้
3.โรคบ้านหมุนจากประสาทการทรงตัวอักเสบ Vestibular neuronitis มักมีอาการบ้านหมุนได้เป็นวัน มักเกิดจากภายหลังการติดเชื้อ เช่น เชื้อไวรัส เป็นต้น

สาเหตุจากนอกศีรษะ เช่น ความเข้นข้นของเลือดต่ำหรือเลือดจาง ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ก็อาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะได้เช่นเดียวกัน

ฉะนั้นคนไข้ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจเลือด หาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบ้านหมุนเพื่อรับการรักษาให้ตรงกับสาเหตุต่อไปครับ

สวัสดีค่ะ
อาการเวียนศีรษะบ้านหมุนแบ่งหลักๆจากหูและหัวดังนี้ค่ะ
-จากหู เป็นภาวะพวกนิ่วในหูเคลื่อนผิดที่หรือน้ำในหูไม่เท่ากัน อาการส่วนมากจะเป็นเวลามีการเปลี่ยนตำแหน่งของศีรษะเช่นบางคนเป็นมากเวลาก้มศรีษะ บางคนเป็นตอนหันศีรษะไปทางซ้ายหรือขวา
-จากหัวหรือสาเหตุในสมอง ผู้ป่วยมักมีปัญหาด้านการทรงตัวร่วมด้วย อาการจะเป็นตลอดเวลาไม่สัมพันธ์กับท่าทางของศีรษะค่ะ อาจมีปวดศีรษะ แขนขาอ่อนแรงร่วมด้วย จะสงสัยภาวะนี้มากขึ้นในผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น เบาหวาน ความดัน ไขมันค่ะ สาเหตุนี้ถือว่าเร่งด่วนควรพบแพทย์ค่ะ

ถ้าอาการเป็นตลอดเวลาแนะนำพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียดค่ะ